เช็คอันดับเว็บไซต์(.co.th)


 

คลังเก็บ

Mr.SEO บริการรับทำ SEO บริษัทรับทำตลาดออนไลน์

ทำไมต้องทำ SEO?
ปกติแล้วเว็บไซต์ทั่วไป เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วออนไลน์เข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตที่เข้าถึงผ่านเครือข่ายได้แล้วนั้น เมื่อระยะเวลาหนึ่งทาง Google bot มาเจอแล้วเก็บข้อมูลไป ก็จะมีการจัดอันดับอยู่แล้วปกติ แต่นั้นทว่ามันไม่ได้อันดับดีๆ นั้นเองเพราะเว็บไซต์นั้นไม่ได้ปรับแต่งเอาไว้ เพื่อให้เหมาะสมในการรวบรวมและจัดระบบระเบียนในการจัดเก็บและการนำออกมา เราจึงจำเป็นต้องทำ SEO นั้นเองเพื่อให้ติดอันดีๆ เท่าที่เราจะปรับเนื้อหาให้ได้ตามด้านคุณภาพและด้านเทคนิค ที่ทาง Google แนะนำไว้

อยากได้อันดับตำแหน่งต่างๆ
ความจริงที่ทุกคนต้องทราบก่อนเลยว่าเรื่องอันดับต่างๆนั้นเราไม่สามารถกำหนดได้ หรือแม้แต่มีกลุ่มคนมาอวดอ้างว่าจะทำให้ติดที่ 1 ได้หรืออันดับใดๆ ได้เรื่องนี้ต้องขอบอกเลยว่าไม่จริง การทำ SEO นั้นทำได้แค่ปรับแต่งให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องอันดับนั้นขึ้นอยู่กับว่าปรับเนื้อหาแล้วคุณภาพดีหรือไม่ จะได้อันดับดีๆ เรื่องว่าจะ TOP 1,3,5,7 อะไรพวกนี้ข้อมูลจริงคือไม่มี ที่เราสังเกตได้คือเมื่อเราปรับแล้วติดอยู่หน้าแรกต่างหากนั้นคือความจริง เหลือจากนั้นก็ค่อยไต่อันดับกันไปตามที่เราปรับแต่ได้

คนรับทำ SEOทำอะไรให้บ้าง?
สำหรับนักทำ SEO หรือ ผู้รับจ้างรับทำ SEO เมื่อรับงานมาแล้วคือภารกิจที่จะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ให้ได้ตามกฏเกณฑ์ที่ทาง Google แจ้งไว้ เพื่อนำเข้าสู่ระบบของ Google แล้วได้อันดับดีๆ นั้นเอง

เรื่องการทำ SEO ไม่ได้ง่ายและไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อเจอกับเว็บไซต์ไม่ได้เขียนไว้ด้วยโครงสร้างมาตรฐานเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเมื่อเริ่มงานเลยว่าได้ เพราะต้องปรับเว็บไซต์ให้ได้ตามโครงสร้างการเขียนเว็บก่อนคือ ภาษา HTML นั้นเอง ไม่ว่าต้นทางจะเขียนด้วยภาษาอะไรมาสุดท้ายก็ต้องเป็น HTML ฉะนั้นเวลาเขียนก็ต้องเขียนให้ถูกต้องตามหลักการ เนื่องจากว่าบางท่านเขียนไว้ผิดบ้าง ถูกบ้าง ด้วยที่ภาษาที่ยึดหยุ่นทำให้ไม่ได้ระวังเรื่องนี้ เช่น ทำเว็บง่ายโดยไม่มี Tag ซะด้วยซ้ำ Tag มีหลายจุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะ Google bot คือโปรแกรมอัตโนมัติ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากจนเกินพื้นฐานที่จะเข้าใจกันว่า การที่เราไม่ระบุอะไรให้ถูกต้องเจ้า Google bot ก็มาอ่านไม่ได้นั้นเองยกตัวอย่างเช่น

title…

description…

keyword…

…….

จะเห็นว่านั้นคือพื้นฐานที่ควรทำ หากเป็นเว็บสำเร็จรูปหรือพวก CMS ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะทำไว้ดีพอสมควรเท่าที่เจอมาน้อยนักที่จะปิดเรื่องพื้นฐานพวกนี้ จะเจอกับเว็บที่เขียนขึ้นมาเอง หรือ Develop มาเองมากกว่าเนื่องจากจะต้องใช้โปรแกรมเมอร์เขียนด้วยความที่เป็นมือใหม่บวกกับตัวภาษายึดหยุ่นทำให้ไม่ได้สนใจเรื่องพื้นฐาน เน้นที่การใช้งานมากกว่าว่าเขียนเสร็จแล้วให้ใช้งานได้เป็นพอ แต่พอมาในมุมการทำ SEO นั้นถือว่าทำไม่ได้เพราะผิดเรื่องพื้นฐานแต่ต้นแล้ว

ทำในบางสิ่งบางอย่างไม่ครบถ้วนตามพื้นฐานการทำ SEO แล้วจะเป็นไร?
คือการทำ SEO ยังไม่จบกระบวนการ เช่น ไม่สร้าง sitemap ,ไม่กำหนด robots.txt หลายๆ กรณีเคยเจออยู่ว่ามีผู้มาบอกว่าทำ SEO ให้กับเว็บไปแล้วแต่พื้นฐาน 2 อย่างนี้ยังไม่มีเลยก็ถือว่ายังไม่จบและนั้นคือสาเหตุที่ทำแล้วไม่ได้ผลนั้นเองส่วนหนึ่ง

Google หาเว็บเราเจอได้อย่างไร?

1) ก่อนทำการค้นหา มีการเก็บข้อมูลในระบบไว้มากกว่า100 ล้านชุดข้อมูล

2) ขณะที่กำลังค้นหา ระบบจะทำการค้นหาข้อมูลตามคำที่เราป้อนเข้าไปโดยจะ มองหาหมวดหมู่ที่ไกล้เคียงมานำเสนอเพื่อพร้อมจะแสดงผล เช่น FOO จะได้กลุ่มข้อมูลคือ
-FOO ที่อยู่ในกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มFOOTBALL (American Football)
-FOO ที่อยู่ในกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มFOOTBALL
-FOO ที่อยู่ในกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มFOOT (หมายถึงเท้า)
-FOO ที่อยู่ในกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มFOOD (หมายถึงอาหาร)

3) หลังจากผู้ค้นหาเลือกข้อมูลได้แล้ว ระบบจะทำงานด้วยอัลกอลิทึมที่ซับซ้อนเพื่อค้นหาข้อมูลที่ดีที่สุดโดยจะมองด้านเนื้อหาความนิยมความน่าเชื่อถือของข้อมูลเครื่อข่ายที่เชื่อมโยงของข้อมูลและข้อมูลความทันสมัยต่อเหตุการณ์หรือแหล่งรวบรวมข้อมูลเช่นเว็บบอร์ดหรือบล๊อกต่างๆอีกทั้งจำพวกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่างเฟสบุ๊คเป็นต้น

4) แสดงผลลัพธ์ ระบบจะแสดงผลลัพธ์ที่ค้นได้ภายใต้การค้นหาด้วยอัลกอลิทึมที่ผ่านมาจะทำการนำเสนอลำดับที่ดีที่สุดใกล้เคียงเป้าหมายมากสุดตามเนื้อหาที่ผู้สร้างเว็บไซต์นำเสนอไว้ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจและบางครั้งอาจจะเป็นข้อมูลขยะหรือเว็บที่ป้อนข้อมูลหลอกที่เรียกกันว่า spam นั้นเอง
เพื่อดึงดูดการทำงานของgooglebot ให้มาเก็บข้อมูลและจัดทำindex แต่จะโดนตรวจสอบผ่านกระบวนการกลั่นกรองในภายหลังได้ด้วยอัลกอลิทึมของทีมงานป้องกันข้อมูลขยะอย่าง
เช่น Pigeon,Penquin,Panda,Hummingbird

FAQ:ถามตอบบ่อยที่ควรรู้

FAQ: ความจริงที่ต้องรู้ก่อนจะดูถามตอบ ไม่มีใครกำหนดอันได้แบบตรงๆ ตกลงกันก่อนจะได้เข้าใจตรงกัน ถ้าผู้ใดกำหนดได้นั้นคือการอวดอ้างเกินจริง
คำถาม : จะรับทำ SEO ติดอันดับ 1,3,5,7 คิดราคาเท่าไร
คำตอบ : ไม่มีครับ บริษัทไม่มีการการันตีอันดับอย่างนั้น เนื่องจากไม่สามารถระบุอันดับแบบนั้นได้ และไม่ได้เก็บเงินเป็นขั้นบรรได เมื่อติดอันดับ 10 เก็บ 1 ครั้ง ติดอันดับ 7 คิดอีกครั้ง เก็บแค่ครั้งเดียวเมื่อคิดหน้าแรกหรือ TOP 10
คำถาม : รับทำ SEOใช้เวลานานไหม
คำตอบ : ตอบแบบตรงๆ ไม่ได้เพราะมันระบุไม่ได้จริงๆ ทางบริษัทขอเวลาดำเนินการ 6 เดือนในการทำงาน แต่งานจริงอาจจะเสร็จก่อน เช่น 2 เดือน 1 เดือน 2 สัปดาห์ 5 วัน 3 วัน หรือเคยเร็วสุด ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นระบุแบบตรงๆ ไม่ได้จริงครับ กะโดยประมาณได้เท่านั้น โดยการส่งข้อมูลไปทาง Google พิจารณาอันดับก่อนครั้งแรก
คำถาม : แล้วตกลงทำอะไรกับการทำ SEO
คำตอบ :เราอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลของ Google อย่างเดียวเลยและต้องทำตามกฏเกณฑ์ที่ทาง Google กำหนดไว้เท่านั้น แล้วอะไรคือจุดมั่นใจว่าเราจะทำ SEO แล้วได้อันดับ
1.ทำตามคำแนะนำการจัดอันดับจาก Google อย่างเคร่งครัด
2.คอยปรับปรุงเว็บไซต์ให้อยู่ในกฏเกณฑ์อยู่เสมอ
3.ติดตามผลวิเคราะห์ข้อมูลของ Google ว่าเว็บไซต์ที่ทำ SEO ดีขึ้นหรือแย่ลง(มีโอกาสจะพูดเพิ่มเติม)
การทำ SEO เหมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์
คือต้องมีการทดลองและสังเกตการ ผลที่ได้เป็นอย่างไรมาวิเคราะห์ ฉะนั้นผู้ที่ทำ SEO อยู่บ่อยๆ และถูกต้องตามหลักการก็จะทราบว่าสิ่งที่ทำจะถูกและจะได้อันดับอย่างไร จึงเป็นสาเหตุให้ทราบว่าเราอาศัยสถิติที่เราทดลองไปเป็นตัวชี้วัดในการทำ SEO.

จุดคุ้มทุน SEO Vs Adwords

จะกล่าวถึงจุดคุ้มทุนของผู้ที่ติดจะทำ SEO ให้กับเว็บไซต์กับการซื้อโฆษณาจากผู้ให้บริการ Search Engine จาก Google
ให้วางแผนด้งนี้ เริ่มต้นหากท่านจะเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่ท่านคิดว่าจะทำตลาดโลกออนไลน์โดยผ่าน Google Search Engine อย่างแน่นอน
ถ้าคุณก้าวหลังคนอื่นแสดงว่าคุณเดินช้าไป เช่น ธุรกิจที่คุณทำนั้นมีคนทำไปก่อนบ้างแล้ว คุณมาทำทีหลังนั้นแสดงว่าเค้าได้ทำ SEO ไปก่อนบ้างแล้วหรืออาจจะซื้อโฆษณาไปแล้วบ้างด้วย
ฉะนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จะมาถามว่าทำอย่างไรดี แน่นอนสิ่งที่คุณจะก้าวให้ทันตอนนี้คือ ซื้อโฆษณาตาม(เว้นเรื่องราคาไว้ก่อน) คุณก็ก้าวทันเค้าทันที ก้าวต่อมาคุณก็ต้องทำ SEO ตามเพื่อผลระยะยาวเพื่อหยุดค่าใช้จ่ายที่บานปลายทีหลัง
จะรอนานแค่ไหนละกว่าการทำ SEO จะได้ผลเพื่อจะหยุดการซื้อโฆษณาท่านต้องขอคำปรีกษาจากผู้ที่รับทำ SEO ว่าจะนานสักแค่ไหน จะทำอย่างไรให้หยุดการซื้อโฆษณาได้เร็ว ต้องเห็นใจเขาใจเราที่ว่าผู้รับทำ SEO บางท่านไม่สนใจอะไรเลยปล่อยประละเลยไป คิดตีราคาให้ถูกเอาเงินลูกค้าให้ได้ค่อยว่ากัน แต่กับเรานะไม่ใช่ การทำ SEO แต่ละครั้งจะต้องประเมินรอบด้าน ว่าเป็นไปได้แต่ไหนว่าเว็บลูกค้าจะติดอันดับ มีองค์ประกอบมากน้อยแค่ไหน ที่ผลการทำ SEO จะได้ผล ไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์ทุกเว็บไซต์จะทำได้ แม้ไม่ได้โดนแบนจากทาง google ไว้เลย ถ้าเมื่อหลายปีก่อนๆ นะใช่ทุกเว็บเมื่อทำ SEO แล้วอาจจะมาแข่งขันกันได้ แต่ปัจจุบันมองตลาดแบบนั้นหรือการทำ SEO แบบนั้นไม่ได้แล้ว ต้องหยุดการสั่งซื้อโฆษณาให้เร็วที่สุด โดยการวางแผนการทำ SEO ให้ได้เร็วที่สุด
ลองมาดูกรณีตัวอย่างเรื่องนี้
– ถ้าคุณซื้อโฆษณาเดือนละ 10,000 บาท 1 ปีจะมีค่าใช้จ่าย 120,000 บาท
– ถ้าคุณทำ SEO 20,000-30,000 บาท และบวกค่าบริการรักษาอันดับ 1,000-3,000 บาท 1 ปีค่าใช้จ่ายสูงสุดคือ 30,000+36,000=66,000 บาท
จะเห็นได้ว่าอย่างไรเสียการทำ seo ก็มีแค่ใช้จ่ายที่น้อยกว่าอยู่ดีต่างกันที่การทำ SEO ต้องใช้เวลาแต่การซื้อ Adwords ไม่ต้องรอ
ท่านมาปรึกษาเราซิเพราะปัจจุบันนี้เราไม่ให้แต่ทำ SEO ให้คุณอย่างเดียวเรายังให้คำปรึกษาการทำตลาดออนไลน์ด้วย เพราะการทำแค่ SEO นั้นต้องวางแผนแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่ทำเว็บไซต์เสร็จแล้วมาบอกว่าทำ SEO ให้หน่อย แต่สุดท้ายแล้วการที่ไปทำเว็บไซต์มาใช้ไม่ได้โดนหรือโดนแก้หรือจดโดเมนใหม่หรือที่ร้ายสุดคือทำเว็บใหม่เลยก็มี

เรื่องเล่าจาก Mr.SEO

ถ้าพูดถึงการบทำ SEOสิ่งแรกสำหรับผู้สนใจทำ SEO คือราคา อันดับรองมากคือ อันดับที่อยากจะได้ หลายๆ ที่รับทำ SEO อยู่จะพยายามลดราคารับทำ SEO ลงโดยการโปรโมทไปบ้างว่าบทำ SEOราคาถูก! ประเด็นสำคัญกว่านั้นคือการไปรับทำ SEO แบบกำหนดอันดับได้หรือการันตีอันดับกัน ในทางปฏิบัติจริงแล้วทำไม่ได้ และไม่สามารถกำหนดได้อย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีความเชื่อแบบนี้กันอยู่ซึ่งเป็นไปตามกลไกตามการตลาด กระแสยิ่งมาก คนรู้มาก เหมือนคนมากลากไป ซึ่งลากกันไปในทางที่ผิด พอมาเจอคนกลุ่มน้อยมาบอกว่าการรับทำ SEO นั้นทำไม่ได้แบบระบุตำแหน่ง หรือการกำหนดเวลาแบบตายตัวได้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะแย้งกัน เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อไปเป็นแบบนั้นแล้ว อยากให้หันมาลองพิจารณากันใหม่ และเชื่ออย่างมีเหตุมีผลถ้าหากคนหนึ่งคนใดรับปากแบบนั้นก็ต้องพิสูจน์กันได้ แต่นี่กลับทำไม่ได้อย่างว่าสุดท้ายก็ผิดใจกันระหว่างผู้จ้างและผู้รับจ้าง เพราะไม่ได้คุยกันแต่ต้นว่าความจริงที่ควรจะเป็นๆอย่างไร

เรื่องที่ผู้จ้างทำ SEO อยากจะฟังและผู้รับทำ SEO อยากจะพูด

โดยส่วนใหญ่ผู้จ้างชอบมากอย่างเจ้าของกิจการ ห้างร้าน ที่จะได้ฟังจากปากผู้รับจ้างทำ SEO ว่าได้ตามที่ขอ เช่น ผู้รับทำ SEO บอกว่าจะได้อันดับตามที่ขอ เพราะขอมาอยากได้อันดับ 1 ,2,3,5,7 เป็นอันชอบ และบอกว่าสัก 1-2 อาทิตย์หรือ 1 เดือน เร็วดีชอบ ก็ตกลงทำกัน แต่สำหรับทาง Mr.SEO นั้นบอกปฏิเสธทันทีซึ่งเป็นเรื่องไม่โดนใจ ไม่ตรงใจในสิ่งที่อยากจะฟังแต่มันคือเรื่องจริงครับ กำหนดไม่ได้ทั้งเรื่องอันดับและเวลาที่การบทำ SEO จะเสร็จ เราอาศัยการส่งข้อมูลไปดูก่อนแล้วดูเกณฑ์ที่ทาง Google รายงานมาจึงจะได้ทราบผลการประมาณการ แต่หากผู้จ้างทำ SEO ไม่ฟังก็จะจากไปโดยปริยาย

ความเร็วในการรับทำ SEO

ไม่มีใครกำหนดเวลาที่ชัดเจนได้เหมือนที่เคยแจ้งไปหลายๆ ครั้ง จะแชร์ข้อมูลให้ทราบ เพราะบางครั้งการทำ SEO บางกรณีสามารถติดอันดับหน้าแรกได้ภายใน 10-30 นาทีกรณีนี้เคยเจอมาแล้วสำหรับทาง Mr.SEO ที่เคยทำมา ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุและผล ไม่ต้องมาคุยว่าเป็นเทพด้าน SEO หรืออะไรกัน ความจริงมีอยู่ว่าเว็บไซต์เคยมีประวัติการทำ SEO มานานแล้วแต่ไม่ติดหน้าแรกสักทีมาจ่ออยู่หน้า 2 อันดับ 11,12 ซึ่งอีกนิดเดียวจะติดหน้าแรกอยู่แล้ว เพียงตั้งค่าต่างๆ ให้ถูกต้องตามหลักการแล้วส่งไปยัง Google ประมวลผล 10-30 นาทีก็จะได้การจัดอันดับใหม่อีกครั้งจึงเป็นที่มาว่าทำไม่ทำ SEO แล้วจะเห็นผลทันที ทุกอย่างมีเหตุผล

อีกกรณีที่ทำไปไม่กี่วันก็เห็นผลก็จะคล้ายกันกรณีเร็วแบบเห็นผลในใน 10-30 นาที แต่ใช้เวลาแค่ 2-3 วันเพราะเว็บเคยมีประวัติการทำมาบ้างแล้ว

แล้วกรณีที่นานหลายเดือนอันนี้ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เพราะบางครั้งการทำ SEO ในกลุ่มคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูงอาจจะต้องใช้เวลานาน เป็นเพราะในแต่ละเจ้าก็ต้องการช่วงชิงเอาตำแหน่งในหน้าแรกกัน ก็ต้องมาสู้กันในการปรับแต่ง

โลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเปลี่ยน การทำ SEO จะเปลี่ยนไหม

เมื่อวัน เวลา เปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยนไป จากยุคที่ไม่มีเว็บไซต์มาเสริมธุระกิจ กลับมามีและพยายามทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไปสื่อต่างๆ ก็เปลี่ยนตาม เช่น การใช้การสื่อสารทางการตลาดผ่านทางการตลาดบน Facebook ,youtube นับว่าเป็นช่องทางที่ขาดกันไม่ได้แล้ว ณ ปัจจุบัน อ้าวแล้วการทำ SEO ละจะยังคงอยู่ไหม ตอบเลยว่าก็ต้องยังคงอยู่ เพราะสิ่งที่เพิ่มเข้ามานั้นแค่ชองทางขยายโอกาส แต่ยังมีประชากรนับ 1,000 ล้านคนที่ยังพึ่งพาการค้นหาข้อมูลผ่าน Google อยู่ และหากละเลยเพิกเฉยไม่ทำ SEO เลย ก็เหมือนกับติดป้ายร้าน ป้ายบริษัท ไว้ในที่ๆ ไม่มีใครมองเห็นหรือรู้ว่า กิจการของเราขายอะไร ให้บริการด้านใดอยู่ บทความนี้สื่อให้เห็นถึงความเข้าใจว่า Facebok,IG,Youtube จะมาแทนที่เว็บไซต์การทำ SEO เพียงแต่เป็นช่องทางเสริมเพื่อเปิดชองทางเท่านั้น อย่าหลงประเด็นหยุดการทำการตลาดออนไลน์โดยผ่านการทำ SEO แล้วหันไปทำการตลาดผ่าน Facebook อย่างเดียวจะเป็นการปิดกั้นตัวเองจากลูกค้าที่กำลังมองหาเราอยู่

คู่มือเริ่มต้น รับทำ seo (Search Engine Optimization)

ยินดีต้อนรับสู่คู่มือเริ่มต้น
รับทำ seo (Search Engine Optimization) ของ Google
คู่มือนี้เร่ิมต้นจากจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือทีมงานของ Google ให้เข้าใจถึงหลักการส�าคัญในการท�า รับทำ seo ต่อมาเราก็คิดว่าคู่มือนี้น่าจะเป็นประโยชน์ส�าหรับเว็บมาสเตอร์ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการท�า รับทำ seo มากนัก แต่ต้องการปรับปรุงการโต้ตอบระหว่างไซต์กับผู้ใช้และเคร่ืองมือค้นหา คู่มือนี้จะไม่พูดถึงเคล็ดลับ ท่ีจะท�าให้ไซต์ของคุณปรากฏเป็นอันดับแรกๆ ในการค้นหาของ Google (ขอโทษทีนะ!) แต่หากลองท�า ตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในคู่มือนี้ เคร่ืองมือค้นหาของเราจะสามารถรวบรวมข้อมูล ท�าดัชนี และเข้าใจ เน้ือหาของคุณได้ง่ายขึ้น
รับทำ seo คือการปรับแต่งเนื้อหาของเว็บไซต์บางส่วนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งหากพิจารณาแยกกันเป็นส่วนๆ อาจไม่ เห็นความส�าคัญของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มากนัก แต่เมื่อรวมทุกส่วนเข้าด้วยกัน คุณจะสังเกตได้ถึงการ เปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ของผู้ใช้ท่ีดีข้ึนและต�าแหน่งท่ีสูงข้ึนในผลการค้นหาทั่วไป คุณอาจจะคุ้นเคยกับหัวข้อต่างๆ ในคู่มือนี้ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบส�าคัญส�าหรับหน้าเว็บ แต่คุณอาจยัง ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของเนื้อหาส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่
แม้ว่าคู่มือนี้อาจเป็นคู่มือการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับ “เคร่ืองมือค้นหา” แต่เราอยากให้คุณพิจารณา การปรับแต่งไซต์โดยค�านึงว่าอะไรที่ส�าคัญที่สุดส�าหรับผู้เข้าชมไซต์ เพราะพวกเขาคือผู้ใช้เว็บไซต์ตัว จริง เครื่องมือค้นหาเป็นเพียงอุปกรณ์ในการค้นหา หากคุณเน้นแต่เร่ืองอันดับในผลการค้นหาทั่วไปเพียง อย่างเดียว ไซต์ของคุณอาจจะมีผลเสียมากกว่าผลดี จริงอยู่ที่ว่าการท�า รับทำ seo จะช่วยให้เว็บไซต์ปรากฎใน ต�าแหน่งดีๆ บนเคร่ืองมือค้นหา แต่ท้ายสุดแล้ว เว็บไซต์คุณจะประสบความส�าเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ไม่ใช่เครื่องมือค้นหา
เว็บไซต์ของคุณอาจมีขนาดและเนื้อหาที่แตกต่างจากตัวอย่างของเรา แต่เราเช่ือว่าคุณสามารถน�าหัวข้อ ต่างๆ ในคู่มือนี้ไปประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์ได้ทุกขนาดและทุกประเภท เราหวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือนี้จะช่วย ให้คุณมีความคิดใหม่ๆ ในการปรับปรุงเว็บไซต์ คุณสามารถไปท่ีฟอรัมความช่วยเหลือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ ของ Google หากมีค�าถาม ต้องการแสดงความคิดเห็น หรือแบ่งปันเรื่องราวความส�าเร็จ

สารบัญ
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo
4 สร้างชื่อหน้าให้ถูกต้องและน่าสนใจ 6 ใช้เมตาแท็ก “ค�าอธิบาย”
การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์
8 ปรับปรุงโครงสร้าง URL
10 ปรับปรุงการน�าทางบนไซต์ให้ง่ายขึ้น
การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม
14 น�าเสนอเนื้อหาและบริการที่มีคุณภาพ 16 เขียน Anchor Text ท่ีดียิ่งขึ้น
18 ปรับการใช้งานรูปภาพให้มีประสิทธิภาพ
20 ใช้แท็กหัวข้ออย่างเหมาะสม
การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล
21 ใช้ robots.txt อย่างมีประสิทธิภาพ
22 รู้จัก rel=”nofollow” ส�าหรับลิงก์
รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ
24 แจ้งข้อมูลไซต์มือถือให้ Google ทราบ
26 น�าผู้ใช้มือถือไปยังไซต์มือถือ อินเทอร์เน็ตเพ่ือท�าดัชนีของ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล
ผมจะช่วยอธิบายหัวข้อต่างๆ เก่ียว กับการท�า รับทำ seo ให้คุณเข้าใจมากขึ้น นะครับ
Googlebot จะรวบรวมข้อมูลบน
Google ทุกวัน ไม่มีวันหยุด
28 โปรโมตเว็บไซต์ให้ถูกวิธี
30 ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือของเว็บมาสเตอร์ฟรี
เราสร้างเว็บไซต์สมมติขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวอย่างประกอบค�าอธิบายในคู่มือนี้ เพื่อให้คุณเห็นภาพประกอบที่ ชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ในแต่ละหัวข้ออย่างละเอียด เพื่อให้ครอบคลุม ข้อมูลต่างๆ อย่างครบถ้วน ข้อมูลพื้นฐานส�าหรับเว็บไซต์ตัวอย่างมีดังนี้:
การท�า รับทำ seo จะมีผลกับผลการค้นหาทั่วไปเท่านั้น ไม่รวมถึงผลการค้นหาที่มีค่าบริการหรือ “มีผู้สนับสนุน” เช่น Google AdWords
ชื่อเว็บไซต์/ธุรกิจ: “คุณแป้งเบเกอรี่”
ชื่อโดเมน: example.com
ข้อมูลหลัก: ร้านเบเกอรี่รับสั่งสินค้าออนไลน์ ข้อมูลสินค้า บทความ ข่าวสารต่างๆ ขนาด: เล็กไม่เกิน 250 หน้า
การค้นหาทั่วไป
การค้นหาที่มีค่าบริการ, AdWords
3

ข้อมูลพื้นฐานเก่ียวกับ รับทำ seo
สร้างชื่อหน้าให้ถูกต้องและน่าสนใจ


คุณแป้งเบเกอรี่ ร้านเบเกอรี่โฮมเมดส่งตรงถึงบ้านคุณ


ระบุชื่อหน้าโดยใช้แท็กชื่อเร่ือง
แท็กชื่อเร่ืองจะบอกให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาทราบว่าหน้าเว็บเกี่ยวกับอะไร โดยแท็ก จะอยู่ ในแท็ก <head> ของเอกสาร HTML (1) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรสร้างแท็กชื่อเรื่องให้ไม่เหมือน กันในแต่ละหน้า<br /> เนื้อหาของช่ือหน้าจะปรากฏขึ้นในผลการค้นหา<br /> หากไซต์ของคุณปรากฏขึ้นในหน้าผลการค้นหา เนื้อหาของแท็กชื่อเรื่องมักจะปรากฏในบรรทัดแรก ของผลการค้นหา (หากคุณไม่คุ้นเคยกับส่วนต่างๆ ในผลการค้นหาของ Google คุณสามารถดูวิดีโอเก่ียว กับการวิเคราะห์ผลการค้นหาอย่างละเอียด และศึกษาแผนภาพแสดงหน้าผลการค้นหาของ Google โดย Matt Cutts ซึ่งเป็นวิศวกรของ Google) ค�าที่อยู่ในช่ือเรื่องซึ่งตรงกับข้อความค้นหาของผู้ใช้จะแสดงเป็นตัว หนา ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชเ้ หน็ ชดั เจนวา่ หนา้ เวบ็ ตรงกบั การคน้ หาของพวกเขาหรอื ไม่ (2)<br /> ในชื่อเรื่อง คุณสามารถแสดงชื่อของเว็บไซต์/ธุรกิจ รวมทั้งข้อมูลท่ีส�าคัญอื่นๆ เช่น ต�าแหน่งที่ตั้งของธุรกิจ หรือเป้าหมายของธุรกิจ หรือบริการและสินค้าที่น�าเสนอ (3)<br /> (1) ชื่อหน้าแรกของไซต์ควรแสดงชื่อธุรกิจและเป้าหมายของธุรกิจ 3 อย่าง<br /> (2) ผู้ใช้ท�าการค้นหาด้วยค�าว่า [ร้านเบเกอร่ี] เว็บไซต์จะปรากฏขึ้นในผลการค้นหา ชื่อหน้าจะอยู่ที่บรรทัดแรก (โปรดสังเกตว่า ข้อความค้นหาท่ีผู้ใช้ท�าการค้นหาจะปรากฏเป็นตัวหนา)<br /> หากผใู้ ชค้ ลกิ ทผี่ ลการคน้ หาและเขา้ ชมหนา้ เวบ็ ชอื่ หนา้ จะปรากฏทดี่ า้ นบนของเบราวเ์ ซอร์<br /> (3) ผู้ใช้ท�าการค้นหาด้วยค�าว่า [ร้านเบเกอร่ี เค้กแต่งงาน] หน้าเว็บที่เกี่ยวข้องที่อยู่ลึกๆ ในไซต์จะปรากฏข้ึนในผลการค้นหา (หากมีชื่อหน้าตรงตามเน้ือหาของหน้า)<br /> HTML<br /> ย่อมาจาก HyperText Markup Language ซ่ึงเป็นภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บ ซึ่งเป็นองค์ประกอบพ้ืนฐานของหน้าเว็บ เช่น เนื้อหา ไฮเปอร์ลิงก์ และรูปภาพ<br /> ข้อความค้นหา<br /> ค�าหรือกลุ่มค�าท่ีผู้ใช้ป้อนเพื่อท�าการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหา<br /> รา้นเบเกอรี่<br /> รา้ นเบเกอร่ี เคก้ แตง่ งาน<br /> เคร่ืองมือค้นหา<br /> ฟังก์ชันของคอมพิวเตอร์ที่ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยใช้ค�าหลักหรือข้อความค้นหาที่ระบุ หรือโปรแกรมที่มีฟังก์ชันนี้<br /> แท็ก <head><br /> เป็นแท็กส่วนหัวในเอกสาร HTML เน้ือหาของแท็กจะไม่ปรากฏในเบราว์เซอร์<br /> 4<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> ระบุเนื้อหาของหน้าเว็บให้ถูกต้อง<br /> เลือกช่ือเรื่องที่สื่อถึงหัวข้อของเนื้อหาบนหน้าเว็บได้ดี<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การเลือกชื่อเรื่องท่ีไม่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาของหน้าเว็บ การใช้ช่ือเรื่องที่เป็นค่าเร่ิมต้นหรือไม่ชัดเจน เช่น “Untitled” หรือ “New Page 1”<br /> สร้างแท็กช่ือเรื่องท่ีไม่ซ้�ากันในแต่ละหน้า<br /> หน้าเว็บของคุณควรมีแท็กชื่อเรื่องท่ีไม่ซ�้ากัน ซึ่งจะช่วยให้ Google สามารถแยกเนื้อหาที่แตกต่างกันในแต่ละหน้าบนไซต์ของคุณ<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้แท็กชื่อเรื่องท่ีเหมือนกันทุกหน้า<br /> ใช้ชื่อเร่ืองที่กระชับแต่สื่อความหมาย<br /> ชื่อเร่ืองจะต้องส้ันและได้ใจความ หากช่ือเรื่องยาวเกินไป Google จะตัดและแสดงข้อมูลบางส่วนในผลการค้นหา<br /> การวิเคราะห์ผลการค้นหาอย่างละเอียด<br /> หลีกเล่ียง:<br /> ใช้ชื่อเร่ืองที่มีความยาวมากเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ใส่ค�าหลักท่ีไม่จ�าเป็นไว้ในแท็กชื่อเรื่องของคุณ<br /> ลิงก์<br /> ชื่อหน้าคือส่วนส�าคัญ ส�าหรับการท�า รับทำ seo<br /> http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2007/11/anatomy-of-search-result.html<br /> แผนภาพแสดงหน้าผลการค้นหาของ Google<br /> http://www.google.com/support/websearch/bin/answer.py?answer=35891<br /> 5<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> ข้อมูลพื้นฐานเก่ียวกับ รับทำ seo<br /> ใช้เมตาแท็ก “ค�าอธิบาย”<br /> <html><br /> <head><br /> <title>คุณแป้งเบเกอรี่ ร้านเบเกอรี่โฮมเมดส่งตรงถึงบ้านคุณ


อธิบายข้อมูลสรุปของแต่ละหน้า
เมตาแท็กค�าอธิบายของหน้าเว็บจะให้ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับหน้าเว็บน้ันๆกับ Google และเคร่ือง มือค้นหาอ่ืนๆ (1) ในขณะท่ีช่ือหน้าอาจประกอบด้วยค�าไม่กี่ค�าหรือวลี เมตาแท็กค�าอธิบายอาจประกอบ ด้วยข้อความหนึ่งหรือสองประโยคหรือย่อหน้าสั้นๆ เครื่องมือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google มีส่วน การวิเคราะห์เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะบอกให้คุณทราบเกี่ยวกับเมตาแท็กค�าอธิบายที่สั้นหรือยาวเกิน ไป หรือซ�้าซ้อนมากๆ (แสดงข้อมูลเหมือนกับแท็ก ) <title> เมตาแท็กค�าอธิบายจะอยู่ภายในแท็ก <head> ของเอกสาร HTML ของคุณ<br /> เมตาแท็กค�าอธิบายมีประโยชน์อย่างไร<br /> เมตาแท็กค�าอธิบายมีความส�าคัญเนื่องจาก Google อาจใช้เป็นตัวอย่างข้อมูลส�าหรับหน้าเว็บของ คุณ ท่ีเราใช้ค�าว่า “อาจ” เน่ืองจาก Google อาจเลือกแสดงข้อความบางส่วนท่ีเก่ียวข้องบนหน้าเว็บที่ตรง กับข้อความค้นหาของผู้ใช้ หรือ Google อาจใช้ค�าอธิบายใน Open Directory Project หากไซต์ของคุณมี ข้อมูลอยู่ที่น่ัน (เรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้เครื่องมือค้นหาแสดงข้อมูล ODP) การเพิ่มเมตาแท็กค�าอธิบายลงใน หน้าเว็บแต่ละหน้าเป็นวิธีปฏิบัติที่ดีในกรณีที่ Google ไม่สามารถค้นหาข้อความที่เหมาะสมเพื่อใช้แสดง ตัวอย่างข้อมูลได้ ในบล็อกศูนย์กลางเว็บมาสเตอร์จะมีโพสต์ท่ีให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงตัวอย่างข้อมูล ด้วยเมตาแท็กให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน<br /> ค�าที่ตรงกับข้อความค้นหาของผู้ใช้จะแสดงเป็นตัวหนาดังภาพที่ (2) ซ่ึงจะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าเนื้อหา บนหน้าเว็บตรงกับสิ่งที่พวกเขาค้นหา ภาพ (3) คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ระบบดึงเอาข้อมูลจากเมตาแท็กค�า อธิบายส�าหรับหน้าเว็บที่อยู่ลึกๆ มาแสดงเมื่อค�าอธิบายตรงกับค�าหลักที่ใช้ค้นหา (เมตาแท็กค�าอธิบายท่ีไม่ ควรซ�้ากันในแต่ละหน้า)<br /> (1) เมตาแท็กค�าอธิบายส�าหรับหน้าแรกควรให้ภาพรวมโดยสรุปของผลิตภัณฑ์ที่คุณน�าเสนอบนไซต์<br /> (2) ผู้ใช้ท�าการค้นหาด้วยค�าว่า [ร้านเบเกอรี่] หน้าแรกของไซต์จะปรากฏขึ้นในผลการค้นหา และแสดงเมตาแท็กค�าอธิบายเป็น ตัวอย่างข้อมูล<br /> (3) ผู้ใช้ค้นหาด้วยค�าว่า [ร้านเบเกอรี่ เค้กแต่งงาน] หน้าเว็บส�าหรับเค้กแต่งงานจะแสดงขึ้นในผลการค้นหา เน่ืองจากเมตาแท็ก ค�าอธิบายตรงกับค�าค้นหา<br /> รา้นเบเกอรี่<br /> รา้ นเบเกอร่ี เคก้ แตง่ งาน<br /> อภิธานศัพท์<br /> ตัวอย่างข้อมูล<br /> ข้อความอธิบายที่แสดงอยู่ใต้ชื่อเว็บในหน้าผลการค้นหา ซึ่งเป็นข้อมูลสรุปของหน้าเว็บและ/หรือส่วนของหน้าเว็บที่ตรงกับค�าหลัก ที่ใช้ค้นหา<br /> Open Directory Project (ODP)<br /> เว็บไดเรกทอรีท่ีใหญ่ที่สุดในโลก (ไดเรกทอรีส�าหรับลิงก์ท่ีมีการจัดระเบียบเป็นหมวดหมู่)<br /> โดเมน<br /> ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตท่ีแสดงต�าแหน่งของคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย ซึ่งมีการจัดการเพ่ือไม่ให้ซ�้าซ้อนกัน<br /> 6</p> <p> แนวทางปฏิบัติท่ีดีท่ีสุด<br /> สรุปเนื้อหาของหน้าเว็บให้ถูกต้อง<br /> เขียนค�าอธิบายให้ละเอียดและดึงดูดความสนใจ เพราะเครื่องมือการค้นหาจะแสดงเมตาแท็กค�าอธิบายในตัวอย่างข้อมูลหากตรงกับค�าค้นหา<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การเขียนเมตาแท็กค�าอธิบายที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหน้าเว็บ การใช้ค�าอธิบายที่ธรรมดาเกินไป เช่น “น่ีคือหน้าเว็บ” หรือ “หน้าเว็บเกี่ยวกับเบเกอรี่” การใส่เฉพาะค�าหลักในค�าอธิบาย การคัดลอกและวางเน้ือหาท้ังหมดลงในเมตาแท็กค�าอธิบาย<br /> ใช้ค�าอธิบายที่แตกต่างกันในแต่ละหน้า<br /> ใช้เมตาแท็กค�าอธิบายท่ีไม่ซ้�ากันจะช่วยให้ท้ังผู้ใช้และ Google ท�างานง่ายขึ้น โดยเฉพาะการค้นหาท่ีอาจแสดงหน้าเว็บหลายๆ หน้าบนโดเมนของคุณ (เช่น การค้นหาโดยใช้ site: operator) หากไซต์ของคุณมีหน้าเว็บหลายหน้า การปรับแต่งเมตาแท็กค�าอธิบายด้วยตนเองอาจไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสม ในกรณีนี้ คุณสามารถสร้างเมตาแท็กค�าอธิบายตามเนื้อหาแต่ละหน้าเว็บโดยอัตโนมัติ<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การใช้เมตาแท็กค�าอธิบายเดียวกันในทุกหน้าหรือเกือบทุกหน้า<br /> ใช้เมตาแท็กค�าอธิบายเพื่อให้ ข้อมูลสรุปเก่ียวกับหน้าเว็บส�าหรับ ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา!<br /> ลิงก์<br /> การวิเคราะห์เนื้อหา การปรับปรุงตัวอย่างข้อมูลด้วยเมตาแท็กให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น<br /> http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2007/12/new-content-analysis-and-sitemap.html http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2007/09/improve-snippets-with-meta-description.html<br /> การป้องกันไม่ให้เคร่ืองมือค้นหาแสดงข้อมูล ODP site: operator<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=35264 http://www.brianwhite.org/2007/04/27/google-site-operator-an-ode-to-thee/<br /> 7<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์<br /> ปรับปรุงโครงสร้าง URL<br /> URL ท่ีเข้าใจง่ายจะสื่อข้อมูลเนื้อหาได้ดี<br /> การสร้างหมวดหมู่และชื่อไฟล์ที่สื่อความหมายถึงเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่างกระชับจะช่วยในการจัด ระเบียบไซต์ให้ดีขึ้น และยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมข้อมูลเอกสารได้ง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังช่วยผู้ใช้ที่ต้องการลิงก์มายังเนื้อหาของคุณจ�า URL ได้ง่ายขึ้น URL ที่สลับซับซ้อน มีความ ยาวมาก และใช้ค�าแปลกๆ จะท�าให้ผู้ใช้เกิดความสับสนได้ง่าย<br /> URL ในรูปที่ (1) ดูสับสนและจดจ�าได้ยาก ผู้ใช้อาจจะไม่สามารถจ�า URL และสร้างลิงก์เชื่อมไปได้ง่ายนัก นอกจากนี้ ผู้ใช้อาจคิดว่าบางส่วนของ URL อาจไม่จ�าเป็น โดยเฉพาะเม่ือ URL นั้นมีพารามิเตอร์ท่ีไม่เป็น ที่รู้จักหลายตัว พวกเขาอาจลบส่วนนั้นทิ้งไปท�าให้ลิงก์ไม่สามารถใช้งานได้<br /> ผู้ใช้บางคนอาจลิงก์ไปยังหน้าเว็บของคุณโดยใช้ URL แบบ Anchor Text หากคุณเลือกใช้ URL ที่มีค�า ที่เกี่ยวข้อง แทนที่จะเป็นรหัสหรือพารามิเตอร์ท่ีแปลกๆ ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาก็จะเข้าใจข้อมูล หน้าเว็บได้ง่ายมากข้ึน (2)<br /> URL ปรากฏในผลการค้นหา<br /> สุดท้าย อย่าลืมว่าผลการค้นหาของ Google จะแสดง URL ไว้ใต้ช่ือและค�าอธิบาย โดยมีค�าท่ีอยู่ ใน URLที่ตรงกับค�าหลักค้นหาเป็นตัวหนา เช่นเดียวกับชื่อและค�าอธิบาย (3) ภาพตัวอย่างการแสดง URLในหน้าผลการค้นหาของเรา ส�าหรับค�าหลัก [เค้กแต่งงาน] ค�าบน URL อาจดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ การค้นหามากกว่าหมายเลขรหัส เช่น “www.example.com/article/102125/”<br /> แม้ว่า Google จะสามารถรวบรวมข้อมูลโครงสร้าง URL ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะซับซ้อนแค่ไหน แต่การที่คุณ ใช้ URL ที่เรียบง่ายก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา เว็บมาสเตอร์บางคนพยายามแก้ URL แบบไดนามิกให้เป็นแบบคงที่ (ซ่ึงไม่เป็นปัญหาส�าหรับ Google) แต่เราอยากเตือนว่าขั้นตอนนี้เป็นการ ท�างานที่ซับซ้อน หากท�าไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดปัญหาในการรวบรวมข้อมูลส�าหรับไซต์ของคุณได้ หาก ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้าง URL ที่ดี เราขอแนะน�าให้อ่านการสร้าง URL ที่เข้าใจง่ายส�าหรับ Google ในหน้าศูนย์ช่วยเหลือของเว็บมาสเตอร์<br /> (1) URL ส�าหรับไซต์เบเกอรี่ที่อาจก่อปัญหาให้ผู้ใช้<br /> (2) ค�าที่ไฮไลต์ด้านบนจะบอกให้ผู้ใช้หรือเครื่องมือค้นหาทราบถึงเน้ือหาของหน้าเว็บที่จะลิงก์ไป<br /> เคก้แตง่งาน<br /> (3) ผู้ใช้ค้นหาค�าว่า [เค้กแต่งงาน] หน้าแรกของคุณจะปรากฏข้ึนในผลการค้นหาพร้อม URL ใต้ชื่อเร่ืองและตัวอย่างข้อมูล<br /> การรวบรวมข้อมูล<br /> การส�ารวจเว็บไซต์โดยซอฟต์แวร์เคร่ืองมือค้นหา (Bot) เพ่ือท�าดัชนีเน้ือหาของเว็บไซต์<br /> พารามิเตอร์<br /> ข้อมูลท่ีใส่ใน URL เพ่ือระบุลักษณะการท�างานของไซต์<br /> รหัส (รหัสเซสชัน)<br /> ข้อมูลที่ใส่เพ่ือระบุและ/หรือการจัดการลักษณะการท�างานของผู้ใช้ท่ีก�าลังเข้าใช้ระบบหรือสื่อสารบนเครือข่าย<br /> 301 redirect<br /> รหัสสถานะ HTTP (ดูหน้า 12) ที่จะน�าผู้เข้าชมไซต์ไปยัง URL ที่ระบุโดยอัตโนมัติ<br /> โดเมนย่อย<br /> ชนิดของโดเมนที่ใช้ในการระบุหมวดหมู่ท่ีเล็กกว่าโดเมนทั่วไป (ดูหน้า 6)<br /> ไดเรกทอรีราก<br /> ไดเรกทอรีด้านบนสุดของโครงสร้างล�าดับชั้นของไซต์ ซึ่งบางครั้งจะเรียกว่า “root”<br /> 8<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> เลือก URL ที่ผู้ใช้และเคร่ือง มือค้นหาเข้าใจได้ง่าย!<br /> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> ใช้ค�าอธิบายใน URL<br /> URL ที่มีค�าที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของไซต์และโครงสร้างจะช่วยให้การใช้งานของผู้ใช้ง่ายขึ้น เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้จดจ�า URL ได้ง่ายข้ึนและอาจต้องการลิงก์ มายัง URL ดังกล่าว<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้ URL ที่ยาวเกินไปและมีพารามิเตอร์และรหัสของเซสชันที่ไม่จ�าเป็น การเลือกใช้ชื่อหน้าเว็บทั่วๆ ไป เช่น “page1.html”<br /> การใช้ค�าหลักมากเกินไป เช่น “wedding-cakes-wedding-cake-weddingcake.html”<br /> สร้างโครงสร้างไดเรกทอรีที่เรียบง่าย<br /> ใช้โครงสร้างไดเรกทอรีในการจัดระเบียบเนื้อหาและช่วยให้ผู้เข้าชมทราบต�าแหน่งบนไซต์ได้ง่ายข้ึน ลองใช้โครงสร้างไดเรกทอรีในการระบุชนิดของเน้ือหาท่ี พบใน URL นั้น<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้ไดเรกทอรีย่อยในระดับลึก เช่น “…/dir1/dir2/dir3/dir4/dir5/dir6/page.html” การใช้ชื่อไดเรกทอรีท่ีไม่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาท่ีอยู่ในไดเรกทอรี<br /> ใช้ URL แบบเดียวในการเข้าใช้เนื้อหาในแต่ละหน้า<br /> เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สับสนและลิงก์ไปยัง URL ที่แตกต่างกัน (ซึ่งจะท�าให้ความน่าเชื่อถือของ URL แต่ละอันแตกต่างกัน) โครงสร้างและการลิงก์ภายในของ หน้าเว็บควรใช้และอ้างอิง URL เดียวกัน หากคุณพบว่าผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาเดียวกันจากหลายๆ URL วิธีการแก้ไขง่ายๆ ก็คือการตั้งค่า 301 redirect จาก URL ที่ไม่ต้องการใช้มายัง URL ที่จะใช้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ URL ตามรูปแบบบัญญัติ หรือใช้เอลิเมนต์ของลิงก์ rel=”canonical” หากคุณไม่ สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การให้หน้าเว็บในโดเมนย่อยและไดเรกทอรีรากเข้าใช้เน้ือหาเดียวกัน<br /> – เช่น “domain.com/page.htm” และ “sub.domain.com/page.htm”<br /> การใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ใน URL อย่างไม่เหมาะสม<br /> – ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า URL จะต้องเป็นตัวพิมพ์เล็ก และจะช่วยให้พวกเขาจดจ�าได้ง่ายกว่า<br /> ลิงก์<br /> URL แบบไดนามิก 301 redirect<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=40349 http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=93633<br /> การสร้าง URL ที่เข้าใจง่ายส�าหรับ Google rel=”canonical”<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=76329 http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=139394<br /> 9<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์<br /> ปรับปรุงการน�าทางบนไซต์ให้ง่ายขึ้น<br /> การน�าทางคือส่ิงท่ีส�าคัญมากส�าหรับเครื่องมือค้นหา<br /> การน�าทางของเว็บไซต์คือสิ่งส�าคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเนื้อหาท่ีต้องการได้อย่างรวดเร็ว<br /> และยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจเน้ือหาส่วนไหนที่เว็บมาสเตอร์คิดว่ามีความส�าคัญ แม้ว่าการ ค้นหาของ Google จะแสดงหน้าเว็บที่คุณต้องการอยู่แล้ว แต่ Google ยังต้องการเข้าใจบทบาทของหน้า ดังกล่าวโดยรวมด้วย<br /> ใช้หน้าแรกเป็นหลักในการน�าทาง<br /> ทุกเว็บไซต์ควรมีหน้าแรกหรือหน้าที่เป็น “root” ซึ่งโดยปกติจะเป็นหน้าท่ีมีผู้เข้าชมบ่อยที่สุด และเป็นจุด เริ่มต้นในการน�าทางผู้เข้าชม แต่หากว่าไซต์ของคุณมีเพียงไม่ก่ีหน้า ส่ิงที่คุณควรค�านึงก็คือผู้เข้าชมจะ เปล่ียนจากหน้าหลัก (หน้าแรกของคุณ) ไปหน้าอื่นๆ อย่างไร คุณมีหน้าเว็บส�าหรับข้อมูลอื่นๆ มาก พอท่ีจะสร้างหน้าเว็บใหม่อีกอันเพื่อแสดงหน้าเว็บเหล่านี้หรือไม่ (เช่น หน้าแรก -> หน้าส�าหรับหัวข้อท่ี เกี่ยวข้อง -> หน้าส�าหรับหัวข้อน้ันๆ) หรือคุณมีผลิตภัณฑ์หลายร้อยรายการที่จ�าเป็นต้องแยกหน้าเว็บออก เป็นกลุ่มๆ และหมวดหมู่ย่อยๆ หรือไม่<br /> ใช้ “รายการแสดงเส้นทาง” เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้<br /> การแสดงเส้นทางหรือ Breadcrumb คือเส้นทางลิงก์ภายในหน้าเว็บ มักจะอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้า เว็บ เพ่ือให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้าหรือหน้าแรกได้ (1) โดยส่วนใหญ่จะแสดงหน้า หลัก (หน้าแรก) หรือลิงก์แรกทางซ้ายสุด และแสดงหน้าต่อๆ ไปทางด้านขวาเป็นล�าดับ<br /> (root)<br /> เกี่ยวกับ บทความ ข่าวสาร<br /> สินค้า<br /> เค้ก<br /> คุ้กกี้<br /> พาย แกลเลอรี<br /> 2010 2011 2012<br /> โครงสร้างไดเรกทอรีของเว็บไซต์ขนาดเล็กส�าหรับ ร้านเบเกอร่ี<br /> อภิธานศัพท์<br /> 404 (ข้อผิดพลาด “page not found”)<br /> (1) ลิงก์รายการแสดงเส้นทางจะแสดงเมื่อคุณเปิดเข้าไปดูเนื้อหาที่อยู่ลึกๆ ในไซต์<br /> แผนผังไซต์ XML<br /> รหัสสถานะ HTTP (ดูหน้า 12) หมายถึงเซิร์ฟเวอร์ไม่พบหน้าเว็บท่ีเบราว์เซอร์ร้องขอ<br /> คือรายการหน้าเว็บท้ังหมดของเว็บไซต์ คุณสามารถใช้แผงผังไซต์ XML แจ้งข้อมูลท้ังหมดบนไซต์ให้ Google ทราบ ซึ่งรวมถึง URL ที่ Google อาจตรวจไม่พบในระหว่างรวบรวมข้อมูลแบบปกติ<br /> 10</p> <p> เตรียมแผนรับมือเมื่อผู้ใช้ลบบางส่วนของ URL ออก<br /> คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากผู้ใช้ลบบางส่วนของ URL ออกไป ผู้ใช้อาจเข้าไปใช้หน้าที่ผิด คุณควรเตรียม รับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจลบบางส่วนของ URL ออก เพราะนึกว่าเขาจะ สามารถไปที่หน้าหลักได้ แทนที่จะใช้รายการแสดงเส้นทางเพื่อกลับไปหน้าหลัก ผู้ใช้อาจก�าลังเปิด http://www.example.com/news/2012/upcoming-bakery-fair.html<br /> จากน้ันก็ตัดบางส่วนของ URL ออก เหลือเพียง http://www.example.com/news/2010/ เพราะคิดว่า URL นั้นจะแสดงข่าวทั้งหมดจากปี 2010 (2) ไซต์ของคุณจะแสดงเนื้อหาตามตัวอย่างข้างบน หรือจะแสดงหน้า 404 (ข้อผิดพลาด “page not found”) แล้วหากผู้ใช้ลบเหลือเพียง http://www.example.com/news/ คุณ จะท�าอย่างไร<br /> จัดเตรียมแผนผังไซต์ไว้สองชนิด ชนิดแรกส�าหรับผู้ใช้ และชนิด ที่สองส�าหรับเคร่ืองมือค้นหา<br /> แผนผังไซต์ (site map ท่ีเขียนด้วยตัวพิมพ์เล็ก) คือหน้าเว็บที่แสดงโครงสร้างของเว็บไซต์ ประกอบด้วย รายการโครงสร้างของไซต์ตามล�าดับขั้น ผู้ใช้มักจะไปท่ีหน้านี้ หากมีปัญหาในการค้นหาหน้าเว็บ วัตถุประสงค์หลักของแผงผังไซต์คือการให้ข้อมูลกับผู้ใช้ แต่เครื่องมือค้นหาก็อาจไปรวบรวมข้อมูลในหน้า น้ีด้วย<br /> ไฟล์แผนผังไซต์ XML (Sitemap ท่ีเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่) ซึ่งคุณสามารถส่งผ่านเคร่ืองมือส�าหรับเว็บ มาสเตอร์ของ Google จะช่วยให้ Google สามารถค้นหาหน้าเว็บบนไซต์ได้ง่ายขึ้น การใช้ไฟล์แผนผัง ไซต์คือวิธีการหนึ่ง (แม้ว่าจะไม่มีการรับประกัน) ในการบอกให้ Google ทราบว่า URL ไหนที่คุณต้องการ ใช้ (เช่น http://example.com/ หรือ http://www.example.com/ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมท่ี โดเมนท่ีต้องการ คืออะไร) Google ได้สร้างสคริปต์โปรแกรมสร้างแผนผังไซต์แบบโอเพนซอร์สเพื่อช่วยคุณในการสร้างไฟล์ แผนผังไซต์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับแผนผังไซต์ คุณสามารถดูคู่มือเกี่ยวกับไฟล์แผนผังไซต์ได้ ในศูนย์ช่วยเหลือของเว็บมาสเตอร์<br /> (2) ผู้ใช้สามารถไปยังไดเรกทอรีที่สูงกว่า โดยลบข้อความส่วนท้ายของ URL<br /> <?xml version="1.0" encoding="UTF-8"?><br /> <urlset xmlns="http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9"><br /> <url> <loc>http://www.example.com/</loc> <changefreq>daily</changefreq> <priority>0.8</priority> </url> <url><br /> <loc>http://www.example.com/news/</loc> </url><br /> <url> <loc>http://www.example.com/news/2008/</loc><br /> </url> <url><br /> <loc>http://www.example.com/news/2009/</loc> </url><br /> <url> <loc>http://www.example.com/news/2010/</loc><br /> </url> </urlset><br /> ลิงก์<br /> ภาพข้างบนเป็นตัวอย่างของแผนผังไซต์ HTML และ XML แผนผังไซต์ HTML ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ใน ขณะที่แผนผังไซต์ XML จะช่วยเครื่องมือค้นหาในการค้นหาหน้าเว็บบนไซต์ของคุณ<br /> เครื่องมือของเว็บมาสเตอร์ สคริปต์โปรแกรมสร้างแผนผังไซต์<br /> https://www.google.com/webmasters/tools/ http://code.google.com/p/googlesitemapgenerator/<br /> โดเมนท่ีต้องการคืออะไร คู่มือเกี่ยวกับไฟล์แผนผังไซต์<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=44231 http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=156184<br /> 11<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเน้ือหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> Flash<br /> เว็บเทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดย Adobe Systems Incorporated ซึ่งสามารถสร้างเว็บท้ังในรูปแบบเสียง วิดีโอ และภาพ เคลื่อนไหว<br /> JavaScript ภาษาโปรแกรมยอดนิยมชนิดหน่ึงส�าหรับเว็บบริการ ซึ่งสามารถเพิ่มคุณลักษณะแบบไดนามิกให้กับหน้าเว็บได้ เมนูแบบเลื่อนลง ช่วยให้ผู้ใช้เลือกรายการจากเมนู เมื่อคลิกที่เมนูจะมีรายการตัวเลือกปรากฏในลักษณะแบบเลื่อนลง ความสามารถในการเข้าถึง ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าถึงและท�าความเข้าใจเน้ือหา<br /> ประสบการณ์ของผู้ใช้<br /> ประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ ฯลฯ ซ่ึงจะเน้นประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับจริง เช่น “พึงพอใจ” “สะดวก” และ “สบาย”<br /> รหัสสถานะ HTTP<br /> รหัสการตอบกลับจากเซิร์ฟเวอร์เมื่อคอมพิวเตอร์มีการส่งข้อมูลถึงกัน โดยใช้ตัวเลขสามหลักที่ให้ความหมายแตกต่างกัน<br /> การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์<br /> ปรับปรุงการน�าทางบนไซต์ให้ง่ายขึ้น<br /> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> สร้างล�าดับขั้นตอนการน�าเสนอเนื้อหาให้ต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ<br /> การจัดล�าดับเนื้อหาควรท�าออกมาให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเริ่มจากเน้ือหาทั่วๆ ไป ค่อยๆ ไปถึงเนื้อหาที่เฉพาะที่ผู้ใช้ต้องการดูบนไซต์ ควรเพิ่ม หน้าการน�าทางในกรณีท่ีเหมาะสม ลองคิดว่าจะน�าไปใช้กับโครงสร้างลิงก์ภายในให้มีประสิทธิภาพอย่างไร<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การสร้างเว็บที่มีลิงก์น�าทางที่สลับซับซ้อน เช่น การใช้ลิงก์ในทุกๆ หน้าของไซต์และลิงก์ไปหน้าภายในอื่นๆ การน�าเสนอข้อมูลแบบวกไปวนมา (เพื่อให้ผู้ใช้คลิกดูข้อมูลต่างๆ)<br /> เน้นการใช้ลิงก์ข้อความในการน�าทาง<br /> เครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมข้อมูลและเข้าใจไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น หากใช้ลิงก์ข้อความในการน�าทางจากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง ผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ก็ ชอบวิธีการน้ีมากกว่าวิธีการอื่นๆ เน่ืองจากอุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับ Flash หรือ JavaScript<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การใช้เมนูแบบเล่ือนลง รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว<br /> – เคร่ืองมือค้นหาโดยส่วนใหญ่จะสามารถค้นหาลิงก์บนไซต์ได้ แต่หากผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้าเว็บผ่านลิงก์ข้อความ ไซต์ของคุณจะมีการเข้าถึงท่ีดียิ่ง<br /> ข้ึน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google จัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความอย่างไร<br /> เน้นการน�าทางที่ไม่ ซับซ้อนและใช้งานง่าย!<br /> อภิธานศัพท์<br /> 12</p> <p> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> เพ่ิมหน้าแผนผังไซต์ HTML และใช้ไฟล์แผนผังไซต์ XML<br /> คุณควรใช้หน้าแผนผังไซต์เรียบๆ ท่ีแสดงลิงก์ส�าหรับหน้าเว็บทั้งหมดหรือหน้าเว็บที่ส�าคัญ (หากคุณมีหน้าเว็บมาก) และการสร้างไฟล์แผนผังไซต์ XML ก็จะ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องมือค้นหาจะพบหน้าเว็บต่างๆ บนไซต์<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การไม่อัปเดตหน้าแผนผังไซต์ HTML จนมีลิงก์ท่ีใช้งานไม่ได้<br /> การสรา้ งแผนผงั ไซต์ HTML ทแี่ สดงรายการหนา้ เวบ็ ทวี่ นุ่ วาย คณุ ควรทา� การแยกออกตามชอื่ เรอื่ ง เปน็ ตน้<br /> ใช้หน้า 404 ให้เป็นประโยชน์<br /> บ่อยคร้ังที่ผู้ใช้อาจจะไปยังหน้าท่ีไม่มีอยู่บนไซต์โดยบังเอิญ จากการคลิกลิงก์ท่ีใช้งานไม่ได้ หรือพิมพ์ URL ที่ไม่ถูกต้อง การมีหน้า 404 แบบก�าหนดเองจะ ช่วยน�าทางให้ผู้ใช้กลับไปยังหน้าที่ใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น หน้า 404 ควรมีลิงก์ท่ีน�ากลับไปหน้าแรก และลิงก์ท่ีน�าไป ยังเนื้อหาที่ได้รับความนิยมหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Google มี วิดเจ็ต 404 ที่คุณสามารถฝังไว้ในหน้า 404 เพื่อแสดงหน้าดังกล่าวโดยอัตโนมัติ พร้อมกับคุณ ลักษณะอ่ืนๆ ท่ีเป็นประโยชน์อีกมากมาย คุณยังสามารถใช้เคร่ืองมือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ในการค้นหาแหล่งท่ีมาของ URL ที่ท�าให้เกิดข้อผิด พลาด “not found” ได้อีกด้วย<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใหเ้ ครอื่ งมอื คน้ หาทา� ดชั นหี นา้ 404 ของคณุ (ตรวจสอบวา่ มกี ารกา� หนดคา่ ใหเ้ วบ็ เซริ ฟ์ เวอรส์ ง่ รหสั สถานะ 404 HTTP เมอื่ มกี ารขอแสดงหนา้ เวบ็ ทไี่ มม่ อี ย)ู่ การแสดงข้อความที่ไม่ชัดเจน เช่น “not found”, “404” หรือไม่แสดงหน้า 404 เลย<br /> การใช้หน้า 404 ที่มีการออกแบบที่ไม่สอดคล้องกับหน้าอื่นๆ ของไซต์<br /> ลิงก์<br /> Google จัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความอย่างไร แหล่งที่มาของ URL ที่ท�าให้เกิดข้อผิดพลาด “not found”<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=72746 http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2008/10/webmaster-tools-shows-crawl-error.html<br /> หน้า 404 แบบก�าหนดเอง รหัสสถานะ 404 HTTP<br /> http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=93641 http://www.w3.org/Protocols/rfc2616/rfc2616-sec10.html<br /> วิดเจ็ต 404<br /> http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2008/08/make-your-404-pages-more-useful.html<br /> 13<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> การปรับเน้ือหาให้เหมาะสม<br /> น�าเสนอเน้ือหาและบริการท่ีมีคุณภาพ<br /> เน้ือหาบนไซต์ที่น่าสนใจเป็นองค์ประกอบส�าคัญในการสร้างฐาน ผู้ใช้<br /> การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีประโยชน์เป็นปัจจัยส�าคัญท่ีจะท�าให้เว็บไซต์คุณดึงดูดผู้ใช้ได้เป็น อย่างดี (1) ผู้ใช้รู้ว่าเน้ือหาใดท่ีน่าสนใจ และพร้อมจะบอกต่อไปยังผู้ใช้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการบอกต่อผ่าน บล็อกโพสต์ บริการส่ือสังคมออนไลน์ อีเมล ฟอรัม หรือวิธีการอื่นๆ เน้ือหาที่มีคุณภาพจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ไซต์คุณภายในกลุ่มผู้ใช้และ Google<br /> คาดการณ์ระดับความเข้าใจของเนื้อหาที่แตกต่างกันตามผู้ใช้ และน�าเสนอเน้ือหาที่ครบถ้วนส�าหรับผู้ใช้ทุกระดับ<br /> ลองนึกถึงค�าต่างๆ ที่ผู้ใช้อาจใช้ในการค้นหาไซต์ของคุณ ผู้ใช้ท่ีรู้ลึกในหัวข้อน้ันๆ อาจใช้ค�าหลักท่ีแตก ต่างจากค�าหลักของผู้ใช้ใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น คนที่เคยเรียนท�าขนมอาจค้นหาค�าว่า Le Cordon Bleu ใน ขณะที่ผู้ที่สนใจอยากเรียนท�าขนมอาจใช้ข้อความค้นหาท่ัวๆ ไป เช่น โรงเรียนสอนท�าขนม การคาดเดา พฤติกรรมการค้นหาที่แตกต่างกันเหล่านี้และปรับกลยุทธ์ในการเขียนเนื้อหาของคุณให้สอดคล้อง (การใช้ค�าหลักต่างๆ ท่ีเหมาะสม) จะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ Google AdWords มีเครื่อง มือค�าหลักที่เป็นประโยชน์ซ่ึงจะช่วยให้คุณพบค�าหลักใหม่ๆ และดูจ�านวนการค้นหาส�าหรับแต่ละค�าได้<br /> (2) นอกจากนี้ เครื่องมือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อความค้นหายอดนิยมท่ี เกี่ยวข้องกับไซต์ของคุณ รวมถึงข้อความที่น�าผู้ใช้มายังไซต์มากที่สุด<br /> ลองนึกถึงการสร้างบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากไซต์อื่นๆ คุณสามารถเขียนเก่ียวกับงานวิจัยใหม่ๆ ข่าว ที่น่าสนใจ หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ส�าหรับกลุ่มผู้ใช้ของคุณโดยเฉพาะ ที่ไซต์อื่นๆ อาจไม่มีองค์ความรู้ หรือความเชี่ยวชาญในการท�าสิ่งเหล่านี้<br /> (1) บล็อกเกอร์อ่านและชอบเน้ือหาของคุณ จึงกล่าวถึงในบล็อกโพสต์<br /> บริการสื่อสังคมออนไลน์<br /> บริการเว็บส�าหรับชุมชนที่โปรโมตและสนับสนุนการติดต่อกันระหว่างเพื่อนฝูง<br /> Google AdWords<br /> บริการโฆษณาท่ีจะแสดงโฆษณาที่เก่ียวข้องกับค�าที่ผู้ใช้ค้นหาบนหน้าผลการค้นหาและหน้าอื่นๆ เมื่อผู้ใช้ท�าการค้นหาผ่าน Google โฆษณา AdWords ที่เก่ียวข้องกับค�าหลักที่ใช้ค้นหาจะปรากฏขึ้นท่ีด้านขวา ด้านบน และ/หรือด้านล่างของหน้าผลการค้นหา<br /> (2) เคร่ืองมือค�าหลักของ Google AdWords สามารถช่วยคุณค้นหาค�าหลักที่เกี่ยวข้องกับไซต์ของคุณ และจ�านวนการค้นหา ด้วยค�าหลักเหล่านั้น<br /> 14<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> การปรับปรุงเนื้อหาและบริการถือ เป็นเรื่องที่ส�าคัญส�าหรับทุกเว็บไซต์!<br /> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> การเขียนเน้ือหาที่มีตัวสะกดและไวยากรณ์ผิดหลายจุด<br /> การฝีงข้อความไว้บนรูปภาพ<br /> – ผู้ใช้อาจต้องจะการคัดลอกและวางข้อความ และเคร่ืองมือค้นหาไม่สามารถอ่านข้อความดังกล่าวได้<br /> จัดระเบียบเนื้อหาเป็นหัวข้อต่างๆ<br /> การจดั ระเบยี บเนอ้ื หาของคณุ ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถแยกหวั ขอ้ ตา่ งๆ ของเนอื้ หาไดเ้ ปน็ อยา่ งดี การแบง่ เนอ้ื หาของคณุ ออกเปน็ กลมุ่ หรอื สว่ นอยา่ งสมเหตสุ มผลจะ ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชค้ น้ หาเนอ้ื หาทต่ี อ้ งการไดเ้ รว็ ขนึ้<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การเขียนเนื้อหายาวๆ ที่พูดถึงหลายหัวข้อในหน้าเว็บ โดยไม่ใช้ย่อหน้า หัวข้อย่อย หรือโครงร่างท่ีดี<br /> สร้างเนื้อหาใหม่ท่ีไม่ซ�้าใคร<br /> การสร้างเนื้อหาใหม่ๆ จะช่วยรักษาฐานผู้ใช้เก่าๆ และดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ ให้เข้ามาอีกด้วย<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การดัดแปลง (หรือคัดลอก) เน้ือหาจากไซต์อื่นๆ โดยไม่มีการเพิ่มเนื้อหาประโยชน์ใหม่ๆ ต่อผู้ใช้ การมีเน้ือหาที่ซ�้าๆ กันหรือคล้ายๆ กันทุกหน้า<br /> – ดูข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับเน้ือหาที่ซ�้ากัน<br /> สร้างเนื้อหาโดยยึดผู้ใช้เป็นหลัก ไม่ใช่เครื่องมือค้นหา<br /> การออกแบบไซตใ์ หต้ รงตามความตอ้ งการของผใู้ ชแ้ ละใหเ้ ครอื่ งมอื คน้ หาเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ยจะชว่ ยสง่ ผลดแี กค่ ณุ<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใส่ค�าหลักท่ีไม่จ�าเป็นจ�านวนมากเพ่ือลวงเคร่ืองมือค้นหา เพราะจะสร้างความร�าคาญแก่ผู้ใช้และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรข้ึน การใส่ข้อความยาวๆ เช่น “ค�าที่มักสะกดผิดที่ใช้ในการมายังหน้าเว็บนี้” ที่อาจไม่มีความหมายส�าหรับผู้ใช้ การแอบซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใช้เห็นเพื่อใช้กับเคร่ืองมือค้นหา<br /> เขียนเน้ือหาให้อ่านง่าย<br /> ผู้ใช้ชอบเนื้อหาที่มีการเรียบเรียงอย่างดีและเข้าใจง่าย<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> ลิงก์<br /> เครื่องมือค�าหลัก เนื้อหาที่ซ�้ากัน<br /> https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=66359<br /> ข้อความค้นหายอดนิยม การซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใช้เห็น<br /> http://www.google.com/webmasters/edu/quickstartguide/sub1guide5.html http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=66353<br /> 15<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> Anchor Text ท่ีดีจะช่วยอธิบายถึงเน้ือหาที่ลิงก์ไปได้ง่าย<br /> Anchor Text คือข้อความท่ีคลิกได้หรือลิงก์ โดยจะวางไว้ในแท็ก <a href="..."></a><br /> ข้อความน้ีจะบอกผู้ใช้และ Google เก่ียวกับเนื้อหาของหน้าเว็บท่ีลิงก์ไป อาจจะเป็นลิงก์ภายใน โดย ลิงก์ไปยังหน้าอื่นๆ บนไซต์ หรือเป็นลิงก์ภายนอกที่ไปยังเนื้อหาที่อยู่บนไซต์อื่น แต่ไม่ว่าในกรณีใด การใช้ Anchor Text อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้ไปยังเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายข้ึน และช่วยให้ Google ทราบว่า หน้าเว็บที่คุณลิงก์ไปมีเนื้อหาเก่ียวข้องกับเร่ืองใด<br /> Anchor Text จะช่วยอธิบายเน้ือหาในหน้าเว็บได้อย่างถูกต้อง<br /> การปรับเน้ือหาให้เหมาะสม<br /> เขียน Anchor Text ให้ดีย่ิงข้ึน<br /> <a href="http://www.brandonsbaseballcards.com/articles/ten-rarest-baseball-cards.htm">บูลเบอรี่ชีสเค้ก</a><br /> เค้ก<br /> หน้าหลัก<br /> เว็บไซต์<br /> หน้าสินค้าของร้านคุณแป้งเบเกอรี่<br /> เค้ก<br /> ข่าวสาร<br /> เว็บไซต์ที่ลิงก์ไปเกี่ยว กับเค้ก<br /> เค้ก<br /> รายชื่อสินค้า<br /> Googlebot<br /> ผู้ใช้<br /> การใช้ Anchor Text อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาทราบว่ามีอะไรอยู่ในหน้าเว็บได้อย่างง่ายดาย<br /> CSS รูปแบบข้อความ<br /> ย่อมาจาก Cascading Style Sheets ซ่ึงเป็นภาษาส�าหรับการก�าหนดการออกแบบและเค้าโครงของหน้าเว็บ การจัดรูปแบบข้อความ เช่น แบบอักษร ขนาด และสีของข้อความ<br /> 16<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> ทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาต่างก็ชอบ Anchor Text ที่เข้าใจง่าย!<br /> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> ใช้ข้อความที่อธิบายชัดเจน<br /> Anchor Text ควรบอกให้ผู้ใช้ทราบว่าหน้าเว็บมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การเขียน Anchor Text โดยใช้ค�าธรรมดาๆ เช่น “หน้าเว็บ”, “บทความ” หรือ “คลิกท่ีน่ี” การใช้ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หรือไม่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาของหน้าเว็บท่ีลิงก์ไป การใช้ URL ของหน้าเว็บเป็น Anchor Text<br /> – การใช้งานแบบนี้จะเหมาะสมในกรณีเช่น การโปรโมตหรือแนะน�าที่อยู่ใหม่ของเว็บไซต์<br /> เขียนข้อความให้กระชับ<br /> เขียนข้อความสั้นๆ ที่ส่ือความหมาย โดยใช้ค�าหรือวลีส้ันๆ<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การเขียน Anchor Text ที่มีความยาวมากๆ หรือเขียนออกมาเป็นย่อหน้า<br /> จัดรูปแบบลิงก์เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน<br /> ให้ผู้ใช้สามารถแยกความแตกต่างระหว่างข้อความทั่วไปกับ Anchor Text ได้อย่างง่ายดาย เพราะพวกเขาอาจพลาดประโยชน์บางอย่าง หากข้ามบาง ลิงก์หรือกดผิดลิงก์โดยไม่ได้ตั้งใจ<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้ CSS หรือการจัดรูปแบบข้อความท่ีท�าให้ลิงก์ดูคล้ายกับข้อความทั่วไป<br /> ใช้ Anchor Text เพื่อลิงก์ไปยังเนื้อหาภายใน<br /> โดยทั่วไปเวลาพูดถึงลิงก์ คุณก็คงนึกถึงลิงก์ส�าหรับเว็บไซต์ภายนอก แต่จริงๆ แล้วการใช้ Anchor Text เพื่อลิงก์ไปยังเน้ือหาภายในจะช่วยให้ผู้ใช้และ Google ใช้งานไซต์ของคุณได้ดีข้ึน<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การใส่ค�าหลักจ�านวนมากหรือ Anchor Text ที่มีความยาวเกินไปส�าหรับเคร่ืองมือค้นหา การสร้างลิงก์ที่ไม่จ�าเป็นซึ่งไม่ได้ช่วยในการน�าทางผู้ใช้<br /> 17<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม<br /> ปรับการใช้งานรูปภาพของคุณให้มีประสิทธิภาพ<br /> ใช้แอตทริบิวต์ Alt ให้ข้อมูลเก่ียวกับรูปภาพ<br /> รูปภาพเป็นส่วนประกอบท่ีส�าคัญบนไซต์ และคุณก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้รูปภาพได้ เคล็ดลับ ง่ายๆ สองประการท่ีคุณควรใช้ก็คือ ตั้งชื่อรูปภาพทั้งหมดให้ต่างกัน<br /> และใช้แอตทริบิวต์ Alt ที่ไม่ซ�้ากัน แอตทริบิวต์ Alt ช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อความแทนรูปภาพ ใน กรณีที่ไม่สามารถแสดงรูปภาพได้ เนื่องจากเหตุขัดข้องบางประการ (1)<br /> เหตุผลข้อแรกที่คุณควรใช้แอตทริบิวต์นี้ หากมีผู้ใช้ดูไซต์ของคุณบนเบราว์เซอร์หรือใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ที่ไม่สนับสนุนการดูรูปภาพ เช่น โปรแกรมอ่านหน้าจอ แอตทริบิวต์ Alt จะแสดงข้อความเกี่ยวกับ รูปภาพน้ันแทน<br /> เหตุผลอีกข้อก็คือ เมื่อคุณใช้ลิงก์รูปภาพ Alt Text ส�าหรับรูปภาพนั้นๆ จะมีคุณลักษณะเดียวกับ Anchor Text ของลิงก์ข้อความ อย่างไรก็ตาม เราไม่แนะน�าให้ใช้ลิงก์รูปภาพส�าหรับการน�าทางในไซต์มากจนเกิน ไป หากคุณสามารถใช้ลิงก์ข้อความแทนที่ สุดท้าย การใช้ชื่อไฟล์ของรูปภาพและ Alt Text ให้เหมาะสมจะ ช่วยให้โปรแกรมค้นหารูปภาพท�างานได้ง่ายขึ้น เช่น Google Image Search ก็จะเข้าใจรูปภาพของคุณ ได้ดียิ่งข้ึน<br /> จัดเก็บไฟล์ไว้ในไดเรกทอรีเฉพาะและจัดการไฟล์โดยใช้รูปแบบ ไฟล์ที่ใช้โดยท่ัวไป<br /> แทนที่จะเก็บไฟล์รูปภาพไว้อย่างกระจัดกระจายในไดเรกทอรีและไดเรกทอรีย่อยต่างๆ ในโดเมนของคุณ เราอยากคุณให้พิจารณารวมรูปภาพของคุณไว้ในไดเรกทอรีเดียว (เช่น brandonsbaseballcards. com/images/) ซึ่งจะช่วยให้เราค้นหารูปภาพของคุณได้ง่ายมากข้ึน<br /> คุณควรใช้ไฟล์ท่ีได้รับการสนับสนุนท่ัวๆ ไป เบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะสนับสนุนไฟล์รูปภาพต่อไปนี้ JPEG, GIF, PNG และ BMP นอกจากนี้ คุณควรใช้ช่ือไฟล์ท่ีมีส่วนขยายที่ตรงกับชนิดไฟล์อีกด้วย<br /> (1) ด้วยเหตุผลบางประการ รูปภาพเลยไม่แสดง แต่อย่างน้อยผู้ใช้ก็จะเห็น Alt Text<br /> (ราก)<br /> ภาพ เกี่ยวกับ บทความ<br /> ข่าวสาร<br /> 2006<br /> (2) การคน้ หารปู ภาพจะทา� ไดง้ า่ ยขนึ้ หากจดั เกบ็ ไวใ้ นไดเรกทอรเี ดยี ว<br /> โปรแกรมอ่านหน้าจอ<br /> ซอฟต์แวร์ส�าหรับอ่านข้อมูลบนหน้าจอหรือการแสดงผลออกมาเป็นอักษรเบรลล์<br /> ภาษา ASCII<br /> ย่อมาจาก American Standard Code for Information Exchange ซ่ึงเป็นการเข้ารหัสอักขระที่ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นหลัก<br /> 18<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด<br /> ใช้ช่ือไฟล์และ Alt Text ที่เป็นข้อความสั้นๆ และส่ือความหมาย<br /> ช่ือไฟล์และ Alt Text (ส�าหรับภาษา ASCII) ก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของไซต์ ควรใช้เป็นข้อความสั้นๆ แต่ส่ือความหมายได้ กระชับ<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การใช้ชื่อไฟล์ทั่วไป เช่น “image1.jpg”, “pic.gif”, “1.jpg” ส�าหรับไซต์ท่ีมีรูปภาพจ�านวนมากอาจลองใช้วิธีการต้ังช่ือรูปภาพแบบอัตโนมัติ การเขียนชื่อไฟล์ท่ีมีความยาวมาก<br /> การใส่ค�าหลักไว้ใน Alt Text หรือการคัดลอกและวางข้อความทั้งประโยค<br /> ใส่ Alt Text เมื่อใช้ลิงก์รูปภาพ<br /> หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ลิงก์รูปภาพ การใส่ Alt Text จะช่วยให้ Google เข้าใจหน้าเว็บที่คุณก�าลังลิงก์ไปมากข้ึน เสมือนว่าคุณก�าลังเขียน Anchor Text ส�าหรับลิงก์ข้อความ<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การเขียน Alt Text ที่มีข้อความยาวมากเกินไป เพราะอาจดูเหมือนเป็นสแปม การใช้แต่ลิงก์รูปภาพในการน�าทางในไซต์<br /> ให้ไฟล์แผนผังไซต์ส�าหรับรูปภาพ<br /> ไฟล์แผนผังไซต์ส�าหรับรูปภาพจะช่วยให้ข้อมูลเพ่ิมเติมกับ Googlebot เก่ียวกับรูปภาพที่พบในไซต์ของคุณ โครงสร้างไฟล์ดังกล่าวจะเหมือนกับไฟล์แผนผัง ไซต์ XML<br /> เรียนรู้วิธีการเพ่ิม ประสิทธิภาพให้กับรูปภาพ บนไซต์ของคุณ!<br /> ลิงก์<br /> Google Image Search PNG<br /> http://images.google.com/ http://th.wikipedia.org/wiki/Portable_Network_Graphics<br /> JPEG BMP<br /> http://th.wikipedia.org/wiki/JPEG http://th.wikipedia.org/wiki/BMP_file_format<br /> GIF แผนผังไซต์ส�าหรับรูปภาพ<br /> http://th.wikipedia.org/wiki/GIF http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=178636<br /> 19<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> ใช้แท็กหัวเรื่องเพ่ือเน้นข้อความส�าคัญ<br /> แท็กหัวเรื่อง (ไม่ใช่แท็ก <head> ของ HTML หรือส่วนหัว HTTP) ใช้ในการจัดโครงสร้างของหน้าเว็บ แท็กหัวเรื่องจะมีอยู่หกขนาดเริ่มจาก<br /> <h1> ท่ีใช้เน้นข้อความท่ีมีความส�าคัญมากที่สุด ไปจนถึง<br /> <h6> ที่ใช้ เน้นข้อความที่มีความส�าคัญน้อยที่สุด (1)<br /> โดยท่ัวไป แท็กหัวเร่ืองจะท�าให้ข้อความที่อยู่ในแท็กมีขนาดใหญ่กว่าข้อความปกติ ซ่ึงเป็นการเน้นว่า ข้อความน้ีมีความส�าคัญ และช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจถึงประเภทของเนื้อหาที่อยู่ใต้หัวเรื่องนั้น การใช้แท็ก หัวเร่ืองหลายๆ ขนาดตามล�าดับจะช่วยสร้างโครงสร้างล�าดับขั้นท่ีน่าสนใจให้กับเนื้อหา และช่วยให้ผู้ใช้ เข้าใจได้ง่ายขึ้น<br /> (1) ส�าหรับหน้าเว็บส�าหรับการประกาศข่าวสารใหม่ๆ คุณอาจใส่ชื่อไซต์ในแท็ก<br /> <h1> และรายละเอียดเพิ่มเติมในแท็ก<br /> <h2> แท็กหัวเรื่องเป็นส่วนประกอบส�าคัญ ของเว็บไซต์ เพราะจะช่วยให้โครงสร้าง ดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ก็ต้องใช้อย่าง ระมัดระวัง!<br /> การปรับเน้ือหาให้เหมาะสม<br /> ใช้แท็กหัวเร่ืองอย่างเหมาะสม<br /> </head><br /> <body></p> <h1>คุณแป้งเบเกอรี่</h1> <h2>ข่าว – คว้ารางวัลชนะเลิศแต่งหน้าเค้ก</h2> <p>เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 ร้านเบเกอรี่คุณแป้งคว้ารางวัลชนะเลิศการแต่งหน้าเค้กจากงาน Thailand’s Pastry Chef 2012 ซึ่งในงานมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 40 ทีมจากทั่วประเทศ ผลงานชนะเลืศได้แรงบันดาลใจมาจาก ลวดลายของดอก กล้วยไม้ไทยและศิลปะไทย </p> <p> ส่วนหัว HTTP<br /> ใน HTTP (HyperText Transfer Protocol) จะหมายถึงข้อมูลชนิดต่างๆ ที่ส่งก่อนข้อมูลจริง<br /> <em><br /> แท็ก HTML ส�าหรับการเน้นข้อความ โดยใช้ตัวเอียง<br /> <strong><br /> แท็ก HTML ส�าหรับการเน้นข้อความ โดยใช้ตัวหนา<br /> (*)<br /> ใช้แทนอักขระหรือชุดอักขระอื่นๆ<br /> .htaccess<br /> ไฟล์การเข้าถึง Hypertext ซึ่งเป็นไฟล์ที่ช่วยจัดการการก�าหนดค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์<br /> บันทึกอ้างอิง<br /> ข้อมูลอ้างอิงที่บันทึกการเข้าถึง ซึ่งจะระบุว่าผู้ใช้มาจากไซต์ใด<br /> แนวทางปฏิบัติท่ีดีท่ีสุด<br /> จินตนาการว่าคุณก�าลังเขียนโครงร่างรายงาน<br /> หลักการโดยทั่วไปก็คล้ายๆ กับการเขียนรายงาน โดยเริ่มจากการเขียนโครงร่าง วางแผนว่าอะไรคือเนื้อหาหลักและอะไรคือส่วนประกอบรอง แล้วค่อยตัดสิน ใจว่าจะใช้แท็กหัวเรื่องตรงไหนให้เหมาะสม<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้แท็กหัวเรื่องกับข้อความที่ไม่จ�าเป็น ซึ่งอาจท�าให้โครงสร้างของเน้ือหาในไซต์ดูไม่น่าสนใจ การใช้แท็กหัวเรื่องผิดที่ เช่นใช้ควบคู่กับแท็ก <em> และ <strong> การใช้ขนาดแท็กหัวเรื่องที่ไม่แน่นอน<br /> ใช้แท็กหัวเรื่องอย่างเหมาะสม<br /> การใช้แท็กหัวเรื่องในต�าแหน่งท่ีเหมาะสม หากใช้แท็กหัวเรื่องมากจนเกินไปอาจท�าให้ผู้ใช้แยกไม่ออกว่าหัวข้อแต่ละอันเรื่มและจบตรงไหน<br /> หลีกเลี่ยง:<br /> การใช้แท็กหัวเรื่องมากจนเกินไป การใส่ข้อความท้ังหมดของหน้าเว็บไว้ในแท็กหัวเรื่องเดียว การใช้แท็กหัวเรื่องส�าหรับการจัดแต่งข้อความ โดยไม่ค�านึงถึงโครงสร้างของเน้ือหา<br /> อภิธานศัพท์<br /> 20</p> <p> จ�ากัดการรวบรวมข้อมูลในส่วนที่ไม่จ�าเป็นด้วยไฟล์ robots.txt<br /> ไฟล์ robots.txt จะบอกใหเ้ ครอ่ื งมอื คน้ หาทราบวา่ สามารถเขา้ ถงึ และรวบรวมขอ้ มลู จากสว่ นตา่ งๆ ของไซตไ์ ดห้ รอื ไม่ (1) ไฟลต์ อ้ งใชช้ อื่ วา่ robots.txt และตอ้ งวางไวใ้ นไดเรกทอรรี ากของไซต์ (2)<br /> คุณอาจไม่ต้องการให้มีการรวบรวมข้อมูลบางหน้าของไซต์ เพราะอาจไม่มีประโยชน์ส�าหรับผู้ใช้ หากแสดง ข้อมูลน้ันบนเครื่องมือค้นหา ในการป้องกันไม่ให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลหน้าเว็บของคุณ เครื่องมือ ส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google มีโปรแกรมสร้าง robots.txt ที่ใช้งานง่าย เพื่อช่วยคุณสร้างไฟล์นี้ โปรด ทราบว่าในกรณีที่ไซต์ของคุณใช้โดเมนย่อย และคุณไม่ต้องการให้มีการรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บบางหน้าใน โดเมนย่อยดังกล่าว คุณจะต้องสร้างไฟล์ robots.txt แยกกันส�าหรับโดเมนย่อยนั้น ส�าหรับข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ robots.txt ขอแนะน�าให้อ่านคู่มือเกี่ยวกับการใช้ไฟล์ robots.txt นี้ในศูนย์ช่วยเหลือของเว็บ มาสเตอร์<br /> นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ อีกหลายวิธีในการป้องกันไม่ให้ไซต์ปรากฏในผลการค้นหา เช่น การเพิ่ม noindex ลงในเมตาแท็ก robots, การใช้ .htaccess ในการป้องกันไดเรกทอรีด้วยรหัสผ่าน หรือการใช้เครื่องมือ ส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google เพื่อลบไซต์ที่ท�าการรวบรวมข้อมูลแล้วออกไป ลองดูวิดีโอของ Matt Cutts วิศวกรของ Google เก่ียวกับค�าเตือนในการบล็อก URL แต่ละวิธี<br /> (1) Bot ของเคร่ืองมือค้นหาท่ีเก่ียวข้อง (สังเกตสัญลักษณ์อักขระตัวแทน *) ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ และรวบรวมขอ้ มลู ใน /images/ หรอื URL ทม่ี เี สน้ ทางทขี่ นึ้ ตน้ ดว้ ย /search<br /> (2) ที่อยู่ของไฟล์ robots.txt<br /> จัดการประเภทข้อมูลที่คุณต้องการและไม่ ต้องการที่จะให้มีการรวบรวมข้อมูล!<br /> การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล<br /> ใช้ robots.txt อย่างมีประสิทธิภาพ<br /> User-agent: * Disallow: /images/ Disallow: /search<br /> คุณแป้งเบเกอรี่ ร้านเบเกอรี่โฮมเมด<br /> http://www.example.com/robots.txt<br /> แนวทางปฏิบัติที่ดีท่ีสุด<br /> ใช้การรักษาความปลอดภัยท่ีดีข้ึนส�าหรับเน้ือหาท่ีส�าคัญ<br /> คุณไม่ควรใช้ robots.txt ในการบล็อกเน้ือหาที่ส�าคัญหรือเป็นความลับ เหตุผลก็คือเคร่ืองมือค้นหายังคงสามารถอ้างอิง URL ที่คุณบล็อก (โดยแสดงเฉพาะ URL แต่ไม่มีชื่อเรื่องหรือตัวอย่างข้อมูล) ในกรณีที่มีลิงก์ไปยัง URL เหล่านั้นอยู่บนอินเทอร์เน็ต (เหมือนกับบันทึกแหล่งท่ีมา) นอกจากน้ี เครื่องมือค้นหาที่ไม่ สามารถท�างานร่วมกับ Robots Exclusion Standard อาจไม่ท�าตามค�าสั่ง robots.txt ของคุณ ท้ายสุด ผู้ใช้ยังสามารถเข้าไปดูไดเรกทอรีหรือไดเรกทอรีย่อย ในไฟล์ robots.txt และพยายามเดา URL ของเนื้อหาท่ีคุณไม่ต้องการให้ดู การเข้ารหัสเน้ือหาหรือการป้องกันด้วยรหัสผ่านไฟล์ดังกล่าวด้วย .htaccess จึง เป็นทางเลือกท่ีปลอดภัยกว่า<br /> หลีกเล่ียง:<br /> การรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บที่แสดงผลเหมือนหน้าผลการค้นหา<br /> – ผู้ใช้ไม่ต้องการออกจากหน้าผลการค้นหาหน่ึงเพ่ือไปยังหน้าผลการค้นหาอีกหน้าหนึ่ง ซ่ึงไม่ได้ให้ผลลัพธ์ท่ีพวกเขาต้องการ การรวบรวมข้อมูล URL ที่สร้างข้ึนจากบริการพร็อกซี<br /> ลิงก์<br /> โปรแกรมสร้าง robot<br /> Robots Exclusion Standard s.txt<br /> วิธีการป้องกันไม่ให้สไปเดอร์/โปรแกรมรวบรวมข้อมูล เช่น Googlebot เข้าถึงเว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนท่ีควรเปิดเผยต่อสาธารณชน http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2008/03/speaking-language-of-robots.html<br /> บริการพร็อกซี การใช้ไฟล์ robots.txt<br /> คอมพิวเตอร์ท่ีท�าหน้าที่แทนในกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในและเครือข่ายภายนอก หรือซอฟต์แวร์ท่ีท�าหน้าท่ีส�าหรับ http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=156449<br /> วัตถุประสงค์น้ี ค�าเตือนเก่ียวกับวิธีการบล็อก URL<br /> http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2008/01/remove-your-content-from-google.html<br /> 21<br /> ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p> รับมือกับสแปมความคิดเห็นด้วย “nofollow”<br /> การตงั้ คา่ แอตทรบิ วิ ต์ “rel” ของลงิ กเ์ ปน็ “nofollow” จะแจง้ ให้ Google ทราบวา่ ไมค่ วรตดิ ตามลงิ กใ์ ด บนไซตห์ รอื สง่ ผา่ นความนา่ เชอื่ ถอื ไปหนา้ เวบ็ ทลี่ งิ กไ์ ป โดยเพม่ิ rel=”nofollow” ไวใ้ นแทก็ Anchor (1)<br /> การตั้งค่านี้มีประโยชน์เม่ือ ไซต์ของคุณมีบล็อกที่เปิดรับความคิดเห็นแบบสาธารณะ ลิงก์ท่ีอยู่ในความคิด เห็นเหล่านั้นอาจส่งผ่านความน่าเชื่อถือไปหน้าเว็บที่คุณอาจไม่ต้องการ โดยส่วนใหญ่ หน้าแสดงความเห็น ในบล็อกจะเป็นส่วนที่มีการส่งสแปมความคิดเห็นมากท่ีสุด (2) การใช้ “nofollow” ในลิงก์เหล่านี้จะช่วย ป้องกันความน่าเช่ือถือส�าหรับไซต์ที่คุณสร้างขึ้นด้วยความยากล�าบากให้กับไซต์สแปม<br /> เพิ่ม “nofollow” ลงในคอลัมน์การแสดงความคิดเห็นและกระดาน ข้อความโดยอัตโนมัติ<br /> แพคเกจซอฟต์แวร์สร้างบล็อกส่วนใหญ่จะมีการใส่แท็ก “nofollow” โดยอัตโนมัติ แต่ส�าหรับโปรแกรมที่ไม่มี คุณสมบัติดังกล่าว คุณสามารถท�าการแก้ไขได้ด้วยตนเอง คุณยังสามารถน�าไปใช้ได้กับคุณลักษณะอื่นๆ บนไซต์ที่อาจเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น สมุดเยี่ยม, ฟอรัม, Shout Boards, การแสดงรายการ แหล่งที่มา ฯลฯ หากคุณยอมรับประกันลิงก์ท่ีเพิ่มโดยบุคคลท่ีสาม (เช่น ในกรณีท่ีผู้เขียนความคิดเห็น เป็นผู้ที่คุณเชื่อถือ) คุณไม่จ�าเป็นต้องใช้ “nofollow” บนลิงก์ อย่างไรก็ตาม การลิงก์ไปยังไซต์ที่ Google พิจารณาว่าเป็นสแปมอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของไซต์ของคุณเอง ศูนย์ช่วยเหลือ ส�าหรับเว็บมาสเตอร์มีเคล็ดลับเพ่ิมเติมเก่ียวกับการหลีกเลี่ยงสแปมความคิดเห็น เช่น การใช้ CAPTCHA และการเปิดการตรวจสอบความคิดเห็น (3)<br /> (1) ใช้ “nofollow” เพื่อกันไม่ให้ผู้ใช้ใส่ลิงก์ไปยังไซต์ที่คุณไม่เชื่อถือและ/หรือคุณไม่ต้องการให้ความน่าเชื่อถือ<br /> (2) ผู้ส่งสแปมความคิดเห็นจะเขียนข้อความลงในบล็อกโพสต์เพื่อหวังใช้ความเชื่อถือในไซต์ของคุณ<br /> (3) ตัวอย่างของ CAPTCHA ที่ใช้บนบล็อกเกอร์ของ Google ซึ่งเป็นภาพตัวอักษร เพื่อให้ผู้ใช้ระบุเพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนจริงๆ<br /> การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล<br /> เรียนรู้ rel=”nofollow” ส�าหรับลิงก์<br /> <a href="http://www.shadyรับทำ seo.com" rel="nofollow">ผู้ส่งสแปมความคิดเห็น</a><br /> ความคิดเห็น:<br /> เอกกลา่ววา่… ไซตส์วยจังเลยครับ!<br /> ลองไปดูไซตไ์วอากรา้ราคาถูกของผมบา้งนะ ขอบคุณครับ!<br /> 12 กรกฎาคม 2010 19.39 น.<br /> การส่งสแปมความคิดเห็น<br /> หมายถึงการโพสต์ข้อความในคอลัมน์การแสดงความคิดเห็นบนบล็อกหรือกระดานข้อความ การโฆษณา ฯลฯ ซ่ึงไม่เก่ียวข้องกับ เน้ือหาของหน้าเว็บแต่อย่างไร<br /> CAPTCHA<br /> ย่อมาจาก Completely Automated Public Turing test to tell Computers and Humans Apart<br /> 22<br /> อภิธานศัพท์</p> <p> การใช้ “nofollow” ส�าหรับบนหน้าไซต์ ทุกหน้าของไซต์ ฯลฯ<br /> อีกกรณีหนึ่งในการใช้ “nofollow” คือ เมื่อคุณก�าลังเขียนเน้ือหาและต้องการอ้างอิงเว็บไซต์อื่น แต่ไม่ ต้องให้ความน่าเชื่อถือของเว็บคุณผ่านไปยังเว็บไซต์ดังกล่าว ตัวอย่างเช่น คุณก�าลังเขียนบล็อกโพสต์ เกี่ยวกับความคิดเห็นที่เป็นสแปม และต้องการยกตัวอย่างไซต์ที่เขียนความคิดเห็นท่ีเป็นสแปมในบล็อก ของคุณ คุณต้องการเตือนผู้อ่ืนเก่ียวกับไซต์นั้น คุณจึงใส่ลิงก์ของไซต์นั้นในโพสต์ แต่คุณไม่ต้องการให้ ความน่าเชื่อถือของคุณไปท่ีไซต์นั้น การใช้ “nofollow” คือวิธีการท่ีเหมาะสมส�าหรับกรณีนี้<br /> สุดท้าย หากคุณต้องการใช้ “nofollow” ในทุกลิงก์บนหน้าเว็บ คุณสามารถใช้ “nofollow” ในเมตาแท็ก robots ซึ่งอยู่ในแท็ก <head> ของโค้ด HTML ของหน้าเว็บ (4) บล็อกศูนย์กลางเว็บมาสเตอร์จะมีโพสต์ ที่เป็นประโยชน์เก่ียวกับการใช้เมตาแท็ก robots วิธีนี้จะเขียนโค้ดในลักษณะ <meta name="robots" content="nofollow"><br /> (4) ต้ังค่า “nofollow” ให้กับทุกลิงก์บนหน้าเว็บ<br /> <html><br /> <head><br /> <title>คุณแป้งเบเกอรี่ ร้านเบเกอรี่โฮมเมดส่งตรงถึงบ้านคุณ




ตรวจสอบว่าคุณมีมาตรการในการ รับมือกับการแสดงความคิดเห็นที่เป็น สแปม!
ลิงก์
การหลีกเลี่ยงสแปมความคิดเห็น
http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=81749
การใช้เมตาแท็ก robots
http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2007/03/using-robots-meta-tag.html
23
ข้อมูลพื้นฐานเก่ียวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล

รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ
แจ้งข้อมูลไซต์มือถือให้ Google
ก�าหนดค่าไซต์มือถือเพื่อให้สามารถท�าดัชนีได้อย่างถูกต้อง
ในปัจจุบันมีการใช้งานมือถือกันมากขึ้น โดยมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือจ�านวนมากท�าการค้นหาในหน้าการ ค้นหาของ Google บนมือถือ อย่างไรก็ตาม ในฐานะเว็บมาสเตอร์ การดูแลไซต์มือถือและการเข้าถึงผู้ใช้ที่ ค้นหาบนมือถือไม่ใช่เรื่องง่าย ไซต์มือถือมีรูปแบบท่ีต่างไปจากเดสก์ท็อป วิธีการจัดการและทักษะที่ จ�าเป็นก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย ท�าให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ อยู่ตลอด ไซต์มือถือจ�านวนมากได้รับการ ออกแบบเพื่อการแสดงผลบนมือถือโดยเฉพาะ แต่ว่าไม่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่าย
เคล็ดลับในการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยให้เรารวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณและท�าดัชนีให้ถูกต้องมีดังนี้:
ตรวจสอบว่า Google ได้ท�าดัชนีส�าหรับไซต์มือถือของคุณ
หากเว็บไซต์ของคุณไม่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google บนมือถือ แม้ว่าจะใช้ site: operator ไซต์ของ คุณอาจมีปัญหาต่อไปนี้:
1. Googlebot อาจไม่พบไซต์ของคุณ
Googlebot จะต้องมีการรวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณก่อน ถึงจะสามารถรวมไซต์ไว้ในดัชนีการค้นหาของเรา หากคุณเพิ่งสร้างไซต์ เป็นไปได้ว่าเราอาจยังไม่มีข้อมูล ในกรณีนี้ ให้สร้างแผนผังไซต์มือถือ และส่งไป ที่ Google เพื่อแจ้งให้เราทราบว่ามีไซต์นั้นอยู่ คุณสามารถส่งแผนผังไซต์มือถือผ่านเครื่องมือส�าหรับเว็บ มาสเตอร์ของ Google ได้เช่นเดียวกับแผนผังไซต์มาตรฐาน
(1) ตัวอย่างการค้นหา [เค้กผลไม้] ผ่าน Google บนเดสก์ท็อป (ด้านบน) และบนมือ ถือ (ด้านซ้าย) ผลการค้นหาบนมือถือสร้างขึ้นส�าหรับโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ ซึ่งจะ แตกต่างจากผลการค้นหาบนเดสก์ท็อปทั่วไป
ตรวจสอบว่า Google รู้จักไซต์มือ ถือของคุณเพ่ือให้ผู้ใช้สามารถค้นหา ไซต์ผ่านทางมือถือได้
แผนผังไซต์มือถือ
แผนผังไซต์ XML ท่ีมี URL ของหน้าเว็บที่ออกแบบมาส�าหรับโทรศัพท์มือถือ การส่ง URL ของไซต์ส�าหรับโทรศัพท์มือถือไปยัง Google จะช่วยให้เราทราบว่ามีหน้าเว็บเหล่านั้นอยู่จริง และเราจะเร่ิมท�าการรวบรวมข้อมูล
User-agent
ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ใช้ส�าหรับเข้าถึงเว็บไซต์
XHTML Mobile
XHTML คือภาษามาร์กอัปท่ีพัฒนาจากการเปลี่ยน HTML เป็น XML แล้วมีการขยายการใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ
HTML ขนาดย่อ
ภาษามาร์กอัปที่คล้ายกับ HTML ใช้ในการสร้างหน้าเว็บส�าหรับโทรศัพท์มือถือ รวมถึง PHS และ PDA
24
อภิธานศัพท์

2. Googlebot อาจไม่สามารถเข้าถึงไซต์ของคุณ
ไซต์มือถือบางไซต์จะอนุญาตการเข้าถึงเฉพาะโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ท�าให้ Googlebot ไม่สามารถเข้าถึง ไซต์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถค้นหาไซต์นั้นได้ โปรแกรมรวบรวมข้อมูลส�าหรับไซต์มือถือของ เราคือ “Googlebot-Mobile” หากคุณต้องการให้มีการรวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณ โปรดอนุญาตการ เข้าถึงไซต์ส�าหรับ User-agent เช่น “Googlebot-Mobile” (2) โปรดทราบว่า Google อาจเปลี่ยนแปลง ข้อมูล User-agent ได้ตลอดเวลา โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ เราจึงไม่แนะน�าให้ตรวจสอบว่า User-agent ตรงกับ “Googlebot-Mobile” หรือไม่ (User-agent ที่ใช้ในปัจจุบัน) แต่ควรตรวจสอบว่าส่วนหัวของ User- agent มีสตริง “Googlebot-Mobile” อยู่หรือเปล่า นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้การค้นหา DNS ในการ ตรวจสอบ Googlebot ได้อีกด้วย
ตรวจสอบว่า Google รู้จัก URL ของไซต์มือถือ
หลังจากที่ Googlebot-Mobile ท�าการรวบรวมข้อมูล URL ของคุณ เราจะตรวจสอบว่า URL แต่ละอัน สามารถเปิดบนโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่ หน้าเว็บที่ไม่สามารถเปิดบนโทรศัพท์มือถือจะถูกลบออก จากดัชนีไซต์มือถือ (แต่อาจจะรวมไว้ในดัชนีเว็บท่ัวไป) หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบมีหลายปัจจัย หนึ่ง ในนั้นคือการประกาศ “DTD (Doc Type Definition)” ตรวจสอบว่าการประกาศ DTD ของ URL ส�าหรับใช้ งานกับมือถือมีรูปแบบที่ถูกต้อง เช่น XHTML Mobile หรือ HTML ขนาดย่อ (3) หากรูปแบบถูกต้อง เรา จะท�าดัชนีการค้นหาบนมือถือส�าหรับหน้าเว็บดังกล่าว ส�าหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูหลักเกณฑ์ส�าหรับเว็บ มาสเตอร์บนมือถือ
(2) ตัวอย่างของไซต์มือถือที่จ�ากัดการเข้าถึงจากอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ โปรดอย่าลืมให้การอนุญาตการเข้าถึงส�าหรับ User-agent เช่น “Googlebot-Mobile”
(3) ตัวอย่างของ DTD ส�าหรับโทรศัพท์มือถือ
SetEnvIf User-Agent “Googlebot-Mobile” allow_ua
SetEnvIf User-Agent “Android” allow_ua SetEnvIf User-Agent “BlackBerry” allow_ua SetEnvIf User-Agent “iPhone” allow_ua SetEnvIf User-Agent “NetFront” allow_ua SetEnvIf User-Agent “Symbian OS” allow_ua SetEnvIf User-Agent “Windows Phone” allow_ua Order deny,allow
deny from all
allow from env=allow_ua


ลิงก์


หน้าการค้นหาบนมือถือของ Google ใช้เครื่องมือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ส่ง URL
http://www.google.com/m/ http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=156184 site: operator ใช้การค้นหา DNS ในการตรวจสอบ Googlebot
http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=35256 http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2006/09/how-to-verify-googlebot.html
แผนผังไซต์มือถือ หลักเกณฑ์ส�าหรับเว็บมาสเตอร์บนมือถือ
http://www.google.com/support/webmasters/bin/topic.py?topic=8493 http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=72462
25
ข้อมูลพ้ืนฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล

รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ
น�าผู้ใช้มือถือไปยังไซต์มือถือ
การแสดงหน้าเว็บส�าหรับเดสก์ท็อปและโทรศัพท์มือถือ
ปัญหาที่พบโดยทั่วไปอย่างหนึ่งของเว็บมาสเตอร์ที่ดูแลทั้งหน้าเว็บส�าหรับเดสก์ท็อปและโทรศัพท์ มือถือ คือไซต์ส�าหรับโทรศัพท์มือถืออาจจะปรากฏให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปเห็น หรือกลับกัน คุณจะมีสอง ตัวเลือกในการจัดการกับสถานการณ์นี้คือ:
น�าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไปยังหน้าเว็บส�าหรับมือถือ
คุณควรเปล่ียนเส้นทางผู้ใช้มือถือไปยังหน้าเว็บส�าหรับโทรศัพท์มือถือ เมื่อผู้ใช้หรือโปรแกรมรวบรวม ข้อมูล (เช่น Googlebot-Mobile) เข้าใช้งาน URL ส�าหรับเดสก์ท็อป Google จะสังเกตเห็นการเชื่อม โยงระหว่าง URL ทั้งสอง แล้วจะเลือกแสดงหน้าการค้นหาส�าหรับเดสก์ท็อปหากมาจากเดสก์ท็อป และจะแสดงหน้าส�าหรับมือถือหากมาจากมือถือ
หากคุณเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ โปรดตรวจสอบว่าเนื้อหาใน URL ของทั้งโทรศัพท์มือถือ/เดสก์ท็อปมีความ ใกล้เคียงกันมากท่ีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (1) ตัวอย่างเช่น หากคุณดูแลไซต์ช้อปป้ิง และลูกค้าใช้งานจาก โทรศัพท์มือถือแต่มีการน�าทางไปยัง URL ส�าหรับเดสก์ท็อป ระบบควรน�าผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บส�าหรับ โทรศัพท์มือถือของผลิตภัณฑ์นั้น ไม่ใช่ไปหน้าแรกของไซต์ เราพบไซต์ท่ีใช้วิธีการเปล่ียนเส้น ทางในรูปแบบน้ีเพื่อเพิ่มอันดับในผลการค้นหา แต่จริงๆ แล้วการกระท�าเช่นน้ีจะส่งผลในแง่ลบในเร่ือง ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ คุณควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ีขึ้น
ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีผู้ใช้หรือ Googlebot เปิด URL ส�าหรับโทรศัพท์มือถือจากเดสก์ท็อป คุณไม่ จ�าเป็นต้องเปลี่ยนทางไปยังไซต์ส�าหรับเดสก์ท็อป ตัวอย่างเช่น Google ไม่ได้เปล่ียนทางผู้ใช้จากไซต์ โทรศัพท์มือถือไปยังไซต์เดสก์ท็อปโดยอัตโนมัติ แต่จะใส่ลิงก์ส�าหรับโทรศัพท์มือถือไว้ที่หน้าเว็บของเด สก์ท็อปแทน ซึ่งจะมีประโยชน์มาก เพราะไซต์โทรศัพท์มือถือไม่มีฟังก์ชันการท�างานที่สมบูรณ์เหมือนไซต์ ส�าหรับเดสก์ท็อป แต่ผู้ใช้ก็สามารถเลือกไปท่ีไซต์ส�าหรับเดสก์ท็อปหรือมือถือได้ตามต้องการ
เวอร์ชันเดสก์ท็อป
หน้าแรก
หน้าผลิตภัณฑ์
เปลยี่ นเสน้ ทาง
เปลี่ยนเส้นทาง
ส�าหรับโทรศัพท์มือถือ
หน้าแรก
หน้าผลิตภัณฑ์
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ
(1) ภาพตวั อยา่ งของการนา� ผใู้ ชไ้ ปยงั URL สา� หรบั โทรศพั ทม์ อื ถอื เมอื่ เขา้ ใชง้ านจากโทรศพั ทม์ อื ถอื ในกรณนี ้ี เนอื้ หาใน URL ทงั้ สองจา� เปน็ จะตอ้ ง ใกลเ้ คยี งกนั มากทสี่ ดุ
เปลี่ยนเส้นทาง
การถูกน�าทางจากหน้าเว็บหนึ่งไปยังอีกหน้าเว็บหนึ่งขณะเรียกดูเว็บไซต์
26
อภิธานศัพท์

เปล่ียนเนื้อหาตาม User-agent
บางไซต์จะใช้ URL เดียวกันท้ังเดสก์ท็อปและโทรศัพท์มือถือ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบตาม User-agent พูด ง่ายๆ ก็คือผู้ใช้โทรศัพท์มือถือและผู้ใช้เดสก์ท็อปจะเข้าใช้งาน URL เดียวกัน (ไม่มีการเปลี่ยนเส้นทาง) แต่ เนื้อหาและรูปแบบจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตาม User-agent ในกรณีนี้ URL จะปรากฏทั้งในการค้นหา บนมือถือและเดสก์ท็อป โดยผู้ใช้เดสก์ท็อปจะถูกน�าทางไปท่ีเนื้อหาส�าหรับเดสก์ท็อป และผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือจะถูกน�าทางไปที่เน้ือหาส�าหรับโทรศัพท์มือถือ (2)
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้ก�าหนดค่าไซต์ให้ถูกต้อง ไซต์ของคุณอาจถูกมองว่ามีการปิดบังหน้าเว็บจริง ซึ่งอาจท�าให้ไซต์ไม่ปรากฏในผลการค้นหาของเราได้ การปิดบังหน้าเว็บจริงหมายถึงความพยายามในการ เพ่ิมอันดับในผลการค้นหาโดยให้ข้อมูล Googlebot แตกต่างจากข้อมูลของผู้ใช้ เราให้ความส�าคัญกับการ ปิดบังหน้าเว็บจริงมาก เพราะจะท�าให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผลการค้นหาจะแสดงผลที่มีความเกี่ยวข้อง น้อยลง (หน้าเว็บไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้เห็น/ต้องการ)
“หน้าเว็บที่ผู้ใช้เห็น” หมายถึงอะไร เม่ือคุณมีเนื้อหาสองรูปแบบ แต่ใช้ URL เดียว อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น
Google ใช้ “Googlebot” ส�าหรับการค้นเว็บ และ “Googlebot-Mobile” ส�าหรับการค้นหาบนมือ ถือ ตามหลักเกณฑ์ของเรา คุณจะต้องส่งเน้ือหาส�าหรับเดสก์ท็อปไปยัง Googlebot และส่งเนื้อหา ส�าหรับมือถือไปยัง Googlebot-Mobile โดยเนื้อหาท้ังสองอันต้องเหมือนกับหน้าท่ีผู้ใช้เห็นจริง ตามวิธีท่ีพวกเขาเข้าใช้ แต่เนื้อหาท่ีส่งไปยัง Googlebot และ Googlebot-Mobile ต้องไม่เหมือนกัน
ตัวอย่างหน่ึงท่ีเราอาจพิจารณาว่าคุณพยายามปิดบังหน้าเว็บจริง แม้ไม่ได้ตั้งใจก็ต่อเมื่อไซต์ของคุณแสดง หน้าเว็บพร้อมข้อความ เช่น “โปรดเข้าใช้งานจากโทรศัพท์มือถือ” ให้กับผู้ใช้เดสก์ท็อป แต่ส่งเนื้อหา ส�าหรับมือถือไปที่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลทั้งสอง (ในท่ีนี่ Googlebot จึงได้รับเน้ือหาส�าหรับโทรศัพท์มือ ถือ) หน้าเว็บบนเดสก์ท็อปที่ผู้ใช้จะเห็นคือ “โปรดเข้าใช้งานจากโทรศัพท์มือถือ” ซึ่งจะแตกต่างจากหน้า เว็บที่ Googlebot เห็นคือ “ยินดีต้อนรับสู่ไซต์ของฉัน” ที่เป็นเนื้อหาส�าหรับมือถือ เราอยากเน้นย�้าอีกครั้ง ว่าเราท�าการตรวจสอบการปิดบังหน้าเว็บจริงอย่างจริงจัง เพราะเราต้องการแสดงเนื้อหาท่ีตรงกับความ ต้องการของผู้ใช้ที่สุด และเหมือนกับที่ Googlebot หรือ Googlebot-Mobile ได้รวบรวมข้อมูลไว้
เนื้อหาบนเดสก์ท็อป
เว็บไซต์
เนื้อหาบนโทรศัพท์มือถือ
ผู้ใช้เดสก์ท็อป
ต้องเหมือนกัน
Googlebot
Googlebot-Mobile
ต้องเหมือนกัน
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ
อาจ อาจ แตกต่างกัน แตกต่างกัน
ลิงก์
Google Mobile
http://www.google.com/m/
การปิดบังหน้าเว็บจริง
http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=66355
(2) ภาพตัวอย่างส�าหรับการเปลี่ยนรูปแบบหน้าเว็บตาม User-agent ในกรณีนี้ ผู้ใช้เดสก์ท็อปจะเห็นข้อมูลเดียวกับ Googlebot และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะเห็นข้อมูลเดียวกับ Googlebot-Mobile
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณตั้งค่าการน�าทาง ผู้ใช้ไปยังไซต์ท่ีเหมาะสมกับอุปกรณ์ของ พวกเขา!
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล
27

การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล
โปรโมตเว็บไซต์ให้ถูกวิธี
ข่าว: “ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา!”
เพิ่มการใช้ลิงก์ย้อนกลับจะช่วยเพิ่มคุณค่าของไซต์
โดยปรกติคุณจะมีจ�านวนลิงก์มากขึ้นเรื่อยๆ ตามจ�านวนผู้ใช้ท่ีเจอไซต์ของคุณผ่านการค้นหาหรือวิธีกา รอ่ืนๆ และท�าการลิงก์ไปที่ไซต์ Google ตระหนักดีว่าคุณคงต้องการให้ผู้อื่นทราบเก่ียวกับไซต์ที่คุณทุ่มเท สร้างขึ้นมา การโปรโมตเนื้อหาใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความสนใจในเร่ือง เดียวกันหาไซต์ของคุณได้เร็วข้ึน (1) อย่างที่กล่าวไว้ในคู่มือน้ี การปฏิบัติตามค�าแนะน�าเหล่านี้จนเกิน ความพอดีอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของไซต์คุณ
พัฒนาทักษะในการโปรโมตข้อมูลผ่านบล็อกให้เป็นท่ีรู้จัก ออนไลน์
การเขียนบล็อกบนไซต์ของคุณเองเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีมาก เพื่อให้ผู้ใช้รับทราบถึงผลิตภัณฑ์หรือ บริการใหม่ๆ เว็บมาสเตอร์คนอ่ืนท่ีติดตามไซต์ของคุณหรือฟีด RSS ก็จะสามารถติดตามข่าวสาร ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
การโปรโมตบริษัทหรือไซต์ของคุณทางออฟไลน์ก็เป็นอีกวิธีที่เป็นประโยชน์ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีไซต์ ของธุรกิจ ลองพิมพ์ URL ไว้บนนามบัตร หัวจดหมาย แผ่นโปสเตอร์ ฯลฯ นอกจากนี้ คุณยังสามารถส่ง จดหมายข่าวให้กับลูกค้าเป็นประจ�า เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ บนเว็บไซต์
หากคุณมีธุรกิจ การเพิ่มข้อมูลธุรกิจลงใน Google Places จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านทาง Google แผนที่และการค้นเว็บได้ ศูนย์ช่วยเหลือส�าหรับเว็บมาสเตอร์จะมีเคล็ดลับเพ่ิมเติมเก่ียวกับการ โปรโมตธุรกิจของคุณ
เว็บไซต์
บล็อก
หน้าผลิตภัณฑ์
จดหมายข่าว, DM, โปสเตอร์ ฯลฯ
บล็อกผู้ใช้
ออนไลน์
บริการสื่อสังคมออนไลน์
ออฟไลน์
(1) การโปรโมตไซต์และลิงก์อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ความน่าเชื่อถือของไซต์มากขึ้น
(2) การลงทะเบียนธุรกิจกับ Google Places ช่วยให้คุณสามารถโปรโมตไซต์ผ่าน Google แผนที่และการค้นเว็บได้
ฟีด RSS
เป็นข้อมูลท้ังหมดหรือโดยสรุปที่ให้ข้อมูลการอัปเดตไซต์/บล็อก RSS ย่อมาจาก RDF Site Summary เป็นบริการรูปแบบข้อมูลท่ี เหมือนกับ Atom
28
อภิธานศัพท์

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
ท�าความรู้จักกับไซต์สื่อสังคมออนไลน์
ไซต์ที่มีการโต้ตอบและแบ่งปันระหว่างผู้ใช้ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจในเนื้อหาที่คล้ายๆ กันได้ง่ายขึ้น
หลีกเลี่ยง:
การโปรโมตข้อมูลใหม่จ�านวนเล็กๆ น้อยๆ คุณควรท�าเฉพาะเนื้อหาส�าคัญและน่าสนใจ การใช้บริการฉ้อโกงต่างๆ ที่ท�าให้ไซต์มีการโปรโมตที่เกินจริง
ติดต่อส่ือสารกับผู้ใช้ในชุมชนที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับไซต์ของคุณ
มีโอกาสเป็นไปได้ว่า มีไซต์จ�านวนไม่น้อยที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับคุณอยู่แล้ว และการสื่อสารกับไซต์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ส�าหรับคุณ การติดตามหัวข้อท่ีได้ รับความนิยมเฉพาะกลุ่มหรือในชุมชนของคุณจะช่วยกระตุ้นให้เกิดแนวคิดเน้ือหาใหม่ๆ หรือการสร้างแหล่งข้อมูลท่ีมีคุณค่าส�าหรับชุมชน
หลีกเล่ียง:
การส่งสแปมลิงก์ไปยังทุกไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของไซต์คุณ การซื้อลิงก์จากไซต์อ่ืนเพื่อให้ได้เพจแรงก์แทนที่จะเพิ่มจ�านวนผู้เข้าชม
ไซต์ของคุณท�างานได้ดีหรือไม่
ลิงก์
Google Places
http://www.google.com/local/add/
โปรโมตธุรกิจในท้องถิ่นของคุณ
http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answer=92319
29
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล

เคร่ืองมือค้นหาหลักๆ เช่น Google จะมีเครื่องมือของเว็บมาสเตอร์ให้ใช้งานได้ฟรี ซ่ึงจะช่วยให้เว็บ มาสเตอร์สามารถควบคุมวิธีท่ี Google โต้ตอบกับเว็บไซต์ได้ดีขึ้น พร้อมรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส�าหรับไซต์จาก Google การใช้เครื่องมือของเว็บมาสเตอร์ไม่ได้ท�าให้ไซต์ของคุณ
ตรวจสอบว่าส่วนใดของไซต์ที่ Googlebot มีปัญหาในการรวบรวมข้อมูล แจ้งข้อมูลไฟล์แผนผังไซต์ XML ให้เราทราบ
วิเคราะห์และสร้างไฟล์ robots.txt
ลบ URL ที่ Googlebot รวบรวมข้อมูลแล้ว
ระบุโดเมนที่คุณต้องการใช้
Yahoo! (Yahoo! Site Explorer) และ Microsoft (Bing Webmaster Tools) ก็มีเครื่องมือเว็บมาสเตอร์ใช้ งานได้ฟรี
มีสิทธิพิเศษแต่อย่างไร แต่จะช่วยระบุปัญหาที่ควรแก้ไข เพื่อให้ไซต์ของคุณมีผลลัพธ์การค้นหาท่ีดีขึ้น เว็บ มาสเตอร์สามารถด�าเนินการต่อไปนี้:
ระบุปัญหาเกี่ยวกับเมตาแท็กชื่อเร่ืองและค�าอธิบาย ศึกษาค�าค้นหายอดนิยมที่ใช้ในการค้นหาไซต์
เรียนรู้ว่า Googlebot มองเห็นหน้าเว็บอย่างไร
ลบไซต์ลิงก์ที่ไม่ต้องการออก ไม่ให้ Google แสดงในผลลัพธ์ รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการละเมิดหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพและขอให้มีการพิจารณาไซต์ใหม่
การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล
ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือของเว็บมาสเตอร์ฟรี
ใช้เครื่องมือของเว็บมาสเตอร์เพ่ือช่วยให้ Googlebot รวบรวมข้อมูลได้ง่ายข้ึน
ใช้ Google Analytics และ Website Optimizer ส�าหรับการวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูง
หากคุณท�าการปรับปรุงการรวบรวมข้อมูลและการจัดท�าดัชนีส�าหรับไซต์ของคุณโดยใช้เครื่องมือของ เว็บมาสเตอร์ของ Google หรือบริการอื่นๆ คุณอาจต้องการทราบจ�านวนผู้เข้าชมไซต์ของคุณ โปรแกรม
ศึกษาข้อมูลเชิงลึกว่าผู้ใช้มายังไซต์และใช้งานไซต์อย่างไร ดูเนื้อหาท่ีได้รับความนิยมมากที่สุดในไซต์
วัดผลหลังการท�า รับทำ seo
– เช่น การเปลี่ยนเมตาแท็กชื่อเรื่องและค�าอธิบายช่วยเพ่ิมจ�านวนผู้เข้าชมจากเคร่ืองมือค้นหาหรือไม่
ส�าหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ คุณสามารถน�าข้อมูลจาก Analytics ไปใช้รวมกับข้อมูลประวัติกิจกรรมจาก เซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้เข้าใจวิธีการใช้งานของผู้ใช้เว็บอย่างละเอียดมากข้ึน (เช่น ค�าหลักในการค้นหาไซต์ของ คุณ)
วิเคราะห์เว็บ เช่น Google Analytics คือเครื่องมือที่สามารถให้ข้อมูลในเชิงลึกส�าหรับเรื่องนี้ คุณสามารถใช้ เคร่ืองมือเหล่านี้ในการด�าเนินการต่อไปน้ี:
นอกจากนี้ Google ยังมีเครื่องมือที่เรียกว่า Google Website Optimizer ซึ่งสามารถใช้ทดสอบว่าการ เปลี่ยนแปลงบนหน้าเว็บแบบไหนที่จะช่วยเพิ่มอัตรา Conversion ได้สูงสุด เม่ือน�า Google Analytics และ เครื่องมือของเว็บมาสเตอร์มาใช้ด้วยกันจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ดู วิดีโอการใช้ “Google Trifecta”)
30

ฟอรัมความช่วยเหลือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google
http://www.google.com/support/forum/p/webmasters/
หากคุณมีข้อสงสัยหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของเรา โปรดแจ้งให้เราทราบ
บล็อกศูนย์กลางเว็บมาสเตอร์ Google
http://googlewebmastercentral.blogspot.com/
โพสต์จากพนักงาน Google เกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณ
ศนู ยช์ ว่ ยเหลอื สา� หรบั เวบ็ มาสเตอรข์ อง Google
http://www.google.com/support/webmasters/
ให้บริการเอกสารข้อมูลเชิงลึกเก่ียวกับปัญหาของเว็บมาสเตอร์
เคร่ืองมือส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google
https://www.google.com/webmasters/tools/
เพ่ิมประสิทธิภาพให้กับ Google ในการโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณ
หลักเกณฑ์ส�าหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google
http://www.google.com/webmasters/guidelines.html
หลักเกณฑ์ในการออกแบบ เนื้อหา เทคนิค และคุณภาพจาก Google
Google Analytics
http://www.google.com/analytics/
ค้นหาแหล่งท่ีมาของผู้เข้าชม ส่ิงที่พวกเขาดู และเปรียบเทียบการเปล่ียนแปลง
Google Website Optimizer
http://www.google.com/websiteoptimizer/
ทดสอบหน้าเว็บของคุณ ดูว่าส่วนไหนท่ีดีอยู่แล้วและควรเปลี่ยนส่วนไหน
เคล็ดลับในการเลือกจ้างบริษัทท�า รับทำ seo
http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer. py?answer=35291
หากคุณไม่ต้องการท�า รับทำ seo เอง เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกจ้างบริษัทท่ีให้บริการด้าน รับทำ seo ได้ อย่างง่ายๆ
ใช้เครื่องมือและข้อมูลให้เกิดประ โยชน์สูงสุด!
ลิงก์
Google Trifecta
http://www.youtube.com/watch?v=9yKjrdcC8wA
เอกสารนี้มีอยู่ในรูปแบบ PDF ด้วย คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ได้ที่…
http://www.google.co.jp/intl/en/webmasters/docs/search-engine-optimization-starter-guide.pdf
เว้นแต่ในกรณีที่มีการระบุไว้เป็นอย่างอื่น เนื้อหาของเอกสารนี้อยู่ภายใต้เอกสิทธิ์การใช้งานตามใบอนุญาต Creative Commons Attribution 3.0
31
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ รับทำ seo การปรับปรุงโครงสร้างของไซต์ การปรับเนื้อหาให้เหมาะสม การท�างานกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูล รับทำ seo ส�าหรับเว็บไซต์มือถือ การโปรโมตและการวิเคราะห์ข้อมูล

ดูแหล่งข้อมูลและเครื่องมือ ส�าหรับ รับทำ seo ของ Google
http://www.google.com/webmasters/
ศูนย์กลางเว็บมาสเตอร์ของ Google




© 2016 บริษัท ศูนย์ออกแบบซอฟต์แวร์ จำกัด|Theme Developed By Weblizar Themes บริษัทรับทำ SEO